“พี่ครับ…ผมถูกกลั่นแกล้ง ครั้งนี้มันเล่นเเรงมากเลยครับ” [ข่าวนครสวรรค์]
ข่าวนี้ต้องออกตัวบอกผู้อ่านทุกคนไว้ก่อนว่า โปรดอ่านเเละทำความเข้าใจ ที่สำคัญใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม เพราะเป็นเรื่องที่ผู้เขียนเล่าจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ได้ยินจริงของผู้เขียนเอง
คนในรูปคือ พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือ คนนครสวรรค์รู้จักกันในนาม “สารวัตรแย้” ที่เรียกกันเเบบนี้เพราะชื่อเล่นชื่อเเย้ เเละชีวิตช่วงหนึ่งได้เคยมารับตำเเหน่งเป็นสารวัตร191 ที่เมืองนครสวรรค์ ในช่วงที่มาเป็นสารวัตรที่นครสวรรค์บ้านเรา ก็คุ้นเคยเเละคุ้นชินกับผู้เขียนดี นับว่าเป็นน้องที่น่ารัก พึ่งพาอาศัยได้ ทำงานใหความรู้คนนครสวรรค์มามากมาย
และเเน่นอนว่างานตำรวจก็คงต้องมีการโยกย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามกาลเเละเวลา จนช่วงหนึ่งก็ได้เป็นเป็น ตำรวจสายสืบภาค 6 อยู่ที่จังหวัดกำเเพงเพชร และในช่วงนั้นเองคงเป็นต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น ในขณะที่ทำงานสืบอยู่ที่กำเเพงเพชร สารวัตรเเย้ดำเนินการจับกุมยาเสพติดมากมายหลายคดี ทั้งพื้นที่ กำเเพงเพชร นครสวรรค์ ตาก เคยจับนายใหญ่ค้ายาติดคุกตลอดชีวิตมาเเล้ว สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ การที่จะต้องไปเหยียบตาปลาของผู้มีอิทธิพลทั้งในคราบคนดีเเละในคราบคนเลว ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คือ 2561 ,2560,2559 สารวัตรแย้ได้เข้าไปพัวพันกับการมีเรื่องมีราวกับเเกงค์ยาเสพติดและตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาโดยตลอด เคยถูกร้องรียนมามากมายหลายหน เคยถูกจับขัง 7 วันก็ยังมี ผู้เขียนเคยได้สอบถามพูดคุยกับเจ้าตัวได้ความว่า “การทำงานสืบจับโจร ในบางครั้งต้องเรียนรู้วิธีโจร ทำความรู้จักโจร มีสายเป็นโจร และคบหาโจร” จึงมีโอกาสล้ำเส้นทำให้เกิดเรื่องได้ ตลอดเวล3 ปีที่ผ่านมา ผู้เขียนในฐานะสื่อมวลชนก้ได้ให้ความช่วยเหลือ สารวัตรเเย้ด้านงานข่าว งานคดี มาโดยตลอด เวลาผ่านมา ทำให้นึกว่าเรื่องราวต่างๆจบลงไปแล้ว
จนกระทั่ง เมื่อวานนี้ 23 มิถุนายน 2562 สารวัตรเเย้ได้โทรมาหาแล้วพูดว่า “พี่ครับ ผมถูกกลั่นเเกล้ง มันส่งยาทางไปรษณีย์มาที่บ้านผม เเม่ผมรับ เเล้วตำรวจก็เข้ามารวบเลย มันเล่นเเรงมากครับพี่ เดี๋ยวผมโทรหาใหม่นะครับ” แล้วสายก็ถูกตัดไป เเละช่วงค่ำ ข่าวก็ออกที่ มติชน ในทันที
สรุปข่าวให้เข้าใจง่ายๆก็ คือ มีคนที่ใช้ชื่อพนมทวน แซ่หวาง ส่งพัสดุ มาให้ปลายทางคือ นายพิเชษฐ เสาแบน หรือ “สารวัตรแย้” ทางบ้านของสารวัตรเเย้มีผู้อยู่อาศัย 2 คน คือคุณพ่ออายุ 70กว่าๆนอนป่วยรักษาตัวอยู่เนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุจนต้องผ่าตัดสมอง อีกคนนึงคือคุณเเม่อายุ 61 ปี วันหนึ่งจดหมายพัสดุส่งมา เเม่จึงได้ออกไปรับ และก็ทราบว่าเป็นพัสดุใช้ชื่อส่งถึงลูกชายตน ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่เมื่อเซ็นชื่อรับของ ยังไม่ทันจะได้เดินเข้าไปในบ้าน ก็มีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นตำรวจนับ 10 คน โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ เข้ามารุมล้อม พร้อมกับถามว่าพัสดุอะไร รู้หรือเปล่าว่ามียาบ้าอยู่ในนั้น ก็รู้สึกตกใจ จึงได้พยายามที่จะโทรไปหาผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยกันตรวจสอบ แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถติดต่อผู้ใหญ่บ้านได้ เนิ่องจากถูกกลุ่มเจ้าหน้าที่ยึดโทรศัพท์ไป พร้อมกับให้เปิดกล่องพัสดุออกมาให้ดู จึงได้เห็นว่ามียาเสพติดบรรจุอยู่ในกล่อง แต่เเม่ก็ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร ตำรวจได้ตรวจดูพบว่าเป็นยาไอซ์ 50 กรัมและยาอีสีขาว จำนวนกว่า 50 เม็ด
จริงอยู่ว่า สารวัตรเเย้ อาจจะไม่ใช่ตำรวจสีขาวล้วน อาจเป็นตำรวจเทาๆ กว่า 3 ปีที่สู้คดี สู้งานข่าว งัดกับผู้มีอิทธิพล งัดกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่นาน เเต่การบุกรวบตัวเเม่สารวัตรเเย้ในครั้งนี้ เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามมากมาย เช่น
* ใครจะส่งยาบ้ามาบ้านตัวเอง?
* รับพัสดุไม่ถึง 5 นาที ตำรวจนับ 10 นายบุกรวบตัวรวดเร็วเกินไปไหม?
* ปฏิบัติการเเบบนี้นักข่าวมารวดเร็วทันใจดีจังเลย?
* ข้อเท็จจริงเเบบนี้ ไม่ตรวจรายชื่อผู้ส่งกันเลยหรือ?
อย่างที่ผู้เขียนกล่าวไว้เเล้วว่า ผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน วิเคราะห์ดูว่าอะไรควรเชื่อ อะไรยังไม่ควรเชื่อ สำหรับข่าวนี้เเอดมินจะนำมาเสนอให้ได้ติดตามกันเเน่นอน เมื่อมีความคืบหน้า