ดราม่างาน “ปากน้ำโพรันนิ่ง” นักวิ่งโวยลั่น “จัดแบบนี้อย่าจัดเลยดีกว่า” [ข่าวนครสวรรค์]
มันเคยมีคนกล่าวไว้ว่า “แค่พูดเป็น ..ใช่ว่าจะจัดทอร์คโชว์ได้” ประโยคนี้เหมือนกับเรื่องดราม่าของนครสวรรค์บ้านเราวันนี้ คือ “เเค่วิ่งเป็น….ใช่ว่าจะจัดงานวิ่งได้”
เช้าตรู่วันนี้ทั้งอินบ็อกเเฟนเพจ ทั้งไลน์ส่วนตัว มีเเค่ประเด็นเดียว(ไม่นับเรื่องหวยออก) ก็คือเรื่องของงาน “ปากน้ำโพรันนิ่งครั้งที่1” ทุกๆคนที่ไปร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานนี้ “ไม่มีอะไรดีเลย” ถึงขนาดว่าตอนนี้กำลังเป็นกระเเสในหมู่นักวิ่ง ในหมู่คนนครสวรรค์เเละจังหวัดอื่นๆกระจายไปทั่วอย่างรวดเร็ว เพราะงานนี้คนสมัครมีมากถึง 1200 คน เเละมีเวลาการเตรียมงานมากถึง 3 เดือน ไปดูกันว่านักวิ่งที่มาร่วมรายการนี้เค้าบ่นงานนี้อย่างไรบ้าง
—————————————-
เริ่มตั้งเเต่การตรวจสอบรายชื่อผู้สมัคร ก็มีการตกหล่น ชื่อหาย ไม่ได้เสื้อ กันไปหลายต่อหลายราย บางคนมีทีมงานเเจ้งว่าจะส่งมาให้เเต่ก็ยังไม่ได้
ตามมาด้วยเรื่องของตกเเต่งสถานที่ เเสง สี เสียง จุดปล่อยตัว/เส้นชัย อุปกรณ์ต่างๆ มันช่างดูเเล้วอ่อนด้อยง่อยเปลี้ยเสียขาไม่เหมาะสมกับเป็นงานวิ่งที่มีค่าสมัคร “โคตรเเพง” เมื่อเทียบกับงานอื่นๆ -วิ่ง 5 กม.ค่าสมัคร 400 บ. -วิ่ง 10 กม.ค่าสมัคร 600 บ. -วิ่ง 21 กม.ค่าสมัคร 900 บ.
ต่อมาว่าด้วยเรื่องของการบริการ การดูเเลนักวิ่ง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ในช่วง 2 กิโลเมตรเเรกไม่มีน้ำดื่มให้เลย วิ่งกันเเบบคอเหนียวคอเเห้งไปแบบนั้นจนเข้ากิโลเมตรที่3ถึงจะมีน้ำให้ดื่ม
ในระหว่างทางไม่มีบริการความปลอดภัย เช่น พยาบาล กู้ภัย ตำรวจ ทีมงานรักษาความปลอดภัย หรือรถพยาบาลคอยดูเเล มีเเค่ตรงจุดปล่อยตัวเท่านั้น แบบนี้โคตรอันตราย
วิ่งเสร็จเเล้วเพิ่งพบว่า ไม่มีเหรียญ ไม่มีถ้วย ตามที่ได้โฆษณาไว้เเต่อย่างใด
เรื่องของอาหารการกินนั้น หลายคนพูดว่า ข้าวกล่องที่เตรียมไว้ให้เป็นข้าว “บูด”
ที่สำคัญ หลังจากเกิดเรื่องทั้งหมด ยังไม่มีการรับผิดชอบอะไรเเบบเป็นชิ้นเป็นอัน มีเพียงการขึ้นเวทีเล็กๆ ซึ่งเวทีงานวันเกิดคนในครอบครัวกันเองยังใหญ่เเละสวยงามกว่า ว่า “ยินดีชดใช้คืนเงินเป็นเงิน 50 บาทสำหรับคนที่ต้องได้เหรียญเเต่ไม่ได้ เเละ คืน300 บาทให้สำหรับคนที่ต้องได้ถ้วยเเต่ไม่ได้
เรื่องนี้บานปลายไปจนถึงมีการเเจ้งความกันที่ สภ.เมืองนครสวรรค์กันเลยทีเดียว
อ่ะ!! มาคราวนี้ หลายๆคนคงสงสัยว่าเเล้วใครจัดงานนี้?
ตามหลักฐานที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของงานว่า หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำรายได้ไปสมทบทุนจัดซื้ออุปกรรืการเเพทย์ ณ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ปรากฎชื่อผู้ที่ทำหนังสือประสานกับโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ก็คือ นายภูวเดช จันทร์ประดิษฐ์ มีทั้งหลักฐานที่เป็นรูปถ่ายที่ทางโรงพยาบาลประชาสัมพันธ์ รวมถึงเอกสารขอความอนุเคราะห์ สำหรับดราม่าเรื่องนี้มันจะเป็นอย่างร เดี๋ยวคงต้องคอยติดตามกันต่อไป ที่เเน่ๆ เสียชื่อทั้งจังหวัดนครสวรรค์ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เพราะคนมาวิ่งกว่า 1,200 คน มีทั้งคนคนในจังหวัดเเละคนต่างจังหวัดมาด้วย
เรื่องนี้มันทำให้ต้องฉุกคิดว่า การที่เราจะจัดงานอะไรสักงานนึงนั้น “เราจัดเพื่ออะไรกันเเน่?”
ถ้าจัดเพื่ออยากให้คนทำบุญกับโรงพยาบาล มันมีอีกตั้ง108 วิธี หรือจัดเพื่ออยากให้นครสวรรค์มีงานดีๆเจ๋งๆกับเค้าบ้าง เราคงต้องถามตัวเองว่า “เราสามารถจัดได้ดีจริงๆเหรอ?”
หรือ จะจัดงานเพราะว่า เรามีอาชีพออเเกไนส์ใหญ่อยู่เเล้วมีผลงานที่ผ่านมาดี มีคอนเนกชั่นมีคนรู้จักเยอะ หรือเเท้จริงเเล้ว เราอยากจัดงานเพราะมันกำลังเป็นกระเเส เเละอยากจะได้สิ่งที่ตามมากันเเน่ อันนี้ต้องฝากไว้สำหรับคนที่ “อยากจัดงาน เเต่ จัดไม่เป็น” มันก็ไม่ต่างอะไรกับ “เเค่พูดได้ เเต่อยากจะจัดทอร์คโชว์” นั่นเเหละครับคุณผู้อ่านทุกคน