10 ข่าวนครสวรรค์ “ที่สุดเเห่งปี2019” [ข่าวนครสวรรค์]

Spread the love

ตามธรรมเนียมของ “ข่าวนครสวรรค์” เราจะพยายามคัดข่าวเด่นๆของนครสวรรค์บ้านเรา สรุปมาให้แฟนๆได้อ่านกัน ได้มาทบทวนความทรงจำกันว่าตลอดปีมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่จังหวัดเราบ้าง  ไปพบกับ “10ข่าวนครสวรรค์ ที่สุดเเห่งปี2019” กันเลยครับ

อันดับที่ 10 ผลการเลือกตั้งนครสวรรค์ “นครสวรรค์ย้อนยุค”
ข่าวนี้เกิดเมื่อต้นปี 2019    ผลการเลือกตั้ง ที่ชาวนครสวรรค์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ส.ส.ในครั้งนี้ ล้วนเป็นคนหน้าเก่า คนรุ่นเก๋า  อดีตดำรงตำเเหน่งมาแล้วมากมายทุกคน   เรียกว่าเป็นหนุ่มใหญ่เกือบยกเเผง   มีทั้งอดีตส.ส.   อดีตรัฐมนตรี  อดีตนายกอบจ.    ผู้หลักผู้ใหญ่เห็นรายชื่อเเล้วก็พลันให้ต้องคิดถึงถึงราวของตัวเองในอดีตทั้งของตัวเองเเละของบ้านเมืองนครสวรรค์

เขต1นายภิญโญ นิโรจน์ พรรคพลังประรัฐ ได้คะแนน 24,656 คะเเนน
เขต2นายวีระกร คำประกอบ พรรคพลังประชารัฐได้คะแนน 31,459 คะแนน
เขต3 นายสัญญา นิลสุพรรณ พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนน 32,868คะแนน
เขต4 นายมานพ ศรีผึ้ง พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 33,642คะแนน
เขต 5 นายทายาท เกียรติชูศักดิ์ พรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนน 34,367 คะแนน
เขต6 นายนิโรจน์ สุนทรเลขา พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนน 25,998 คะแนน

อันดับ9 นครสวรรค์มีทีมฟุตบอลสู้ลีกอาชีพเเล้วเมื่อ สี่เเคว ซิตี้ ซื้อทีม
ข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน2019 หลังเเฟนฟุตบอลนครสวรรค์ต้องผิดหวังกับผลงานของทีม นครสวรรค์เอฟซี ถาวรฟาร์มเอฟซี ปากน้ำโพเอฟซี รวมถึง สี่เเควเอฟซี เนื่องจากไม่สามารถฝ่าฟันขึ้นไปเล่นลีกอาชีพในระดับ T4ได้ ทำให้ในเวลานั้น นครสวรรค์ทีมยักษ์ใหญ่เเห่งวงการลูกหนังจะไม่มีทีมฟุตบอลไปร่วมเล่นลีกอาชีพเลยเเม้เเต่ทีมเดียว จนกระทั่ง กลุ่มทุนเดิมสี่เเควเอฟซี ทำการซื้อทีม สมาคมกีฬาพิษณุโลก   ทำให้ในปีหน้านี้ เเฟนบอลชาวนครสวรรค์จะมีทีมฟุตบอลเชียร์เเน่นอนคือทีม “สี่เเควซิตี้”

อันดับ8 ทหารค่ายจิรประวัติ ฉีกทุกกฎเกณฑ์ นำกำลังไปช่วยดูเเลรักษาอาการป่วยของเเม่พลทหาร
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ “กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 4 กรมทหารปืนใหญที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์บ้านเรานี่เอง”  เมื่อเดือนพฤศจิกายน2019   เหตุการณ์คือ  พลทหารชยา วัฒณะธัญการ  เป็นพลทหารใหม่ๆเพิ่งจะเข้ารับราชการเป็นทหารใหม่เมื่อวันที่ 1 พ.ย.62 ที่ผ่านมานี้เอง   เเม่ของพลทหารชยาป่วยติดเตียงหรือโรคเชื้อราในสมองพักรักษาอาการอยู่ที่พักที่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จังหวัดกำเเพงเพชร

พลทหารชยา รู้สึกเป็นห่วงคุณเเม่มากๆ เเต่ก็รู้ว่าตนเองเพิ่งเข้ามารายงานตัวเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เอง จะไปขอลากลับบ้านไม่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก  เเต่ด้วยความที่ในเวลาฝึกฝนก็จะกังวลตลอดเวลา ไม่เป็นอันกินอันนอน ขาดสมาธิ จึงตัดสินใจพูดกับครูฝึกไปตรงๆว่าตนเองมีเเม่ที่ป่วยอยู่ อยากจะขอลากลับไปดูเเลคุณเเม่

ในเวลานั้นพลทหารชยา ก็พูดไปด้วยอาการกล้ากลัวๆ    เเต่พอได้รับคำตอบทำให้รู้สึกดีเป็นอย่างมาก เพราะ นอกจากผู้บังคับบัญชาจะไม่ต่อว่าอะไรเเล้ว ยังสั่งให้ครูฝึกเตรียมรถ เรียกหน่วยแพทย์ เข้าช่วยเหลือแม่น้องพลทหารชยาทันทีอีกด้วย

หลังจากรับรู้เรื่องราวนี้เเล้ว   พ.ท.ทรงสิทธิ์ รอดสการ ผบ.ป.4 พัน.4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์   พร้อมด้วย ร.ท.สัตยา แออ่วม ผู้ฝึกทหารใหม่ก้ได้นำกำลังพลลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจพลทหารชยา วัฒณะธัญการ   พร้อมกับมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและเครื่องใช้ที่จำเป็นเวชภัณฑ์ให้กับครอบครัวทหารใหม่   นอกจากนี้นายทหารพยาบาลของหน่วยได้ทำการตรวจสุขภาพครอบครัวคุณเเม่รวมถึงคนในครอบครัวด้วย   สำหรับพลทหารชยาทันทีที่ได้พบกับครอบครัวและแม่ก็กั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่    โผเข้าโอบกอดกันด้วยความตื้นตันใจพร้อมกับขอบคุณ ผบ.ป.4 พัน.4 ที่เข้าใจรู้สึกถึงการได้อยู่ร่วมกันกับครอบครัวที่ได้กลับมาเยี่ยมครอบครัวถือว่าเป็นกำลังใจและมีความตั้งใจในการฝึกและปฏิบัติหน้าที่ในการรับใช้ชาติและบ้านเมืองต่อไป
อันดับ7  นายก อบต. ในพื้นที่อำเภอบรรพตพิสัย ทำการกระทำชำเราเด็กอายุ14 เรื่องถึงปวีณา
ข่าวนี้ เป็นข่าวดังระดับประเทศ เมื่อ คุณปู่กับคุณพ่อของเด็กสาวได้ร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณา   ไล่ลำดับเหตุการณ์ตามข้อเท็จจริง ก็คือ

เด็กหญิงหนึ่ง(นามสมมติ)  พ่อกับแม่แยกทางกัน   ส่วนตัวของเด็กมีพฤติกรรมติดเพื่อนไม่ค่อยกลับบ้าน    ไม่เรียนหนังสือ  อยู่ๆเด็กหญิงหนึ่ง ก็หายตัวออกจากบ้านที่อำเภอบรรพตพิสัยไป    พอหายไปประมาณ 1 เดือน   พ่อกับปู่รู้สึกว่าผิดปกติมาก จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก    “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี”

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี   หลังได้รับเรื่องก็ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหลักฐานที่พ่อกับปู้ของเด็กหญิงหนึ่งมี จากนั้นก็ประสานกลับมายัง พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผู้กำกับ สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ให้ช่วยสืบหาเด็กหญิงหนึ่งรายนี้

พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ก็ไม่นิ่งดูดายสั่งการระดมสรรพกำลัง   ตามหาตัวเด็กหญิงหนึ่งทันที   จนในที่สุดสามารถพบเด็กหญิงหนึ่ง   ในเวลานั้นเด็กหญิงหนุ่งได้อาศัยรวมอยู่กับกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นหลายคนในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่  ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนางปวีณาก็ได้ประสาน นางศรีสุดา เถาเมืองใจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ และ นายสมหมาย เฉลิมมุข หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ เข้าช่วยเหลือให้รับเด็กหญิงหนึ่งเข้าอยู่ในความคุ้มครองก่อน

นักสังคมสงเคราะห์ได้ทำการสอบถามเด็กหญิงหนึ่ง ได้ความว่า  ก่อนหน้านี้เด็กหญิงหนึ่งไปเที่ยวบ้านเพื่อนและได้รู้จักกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งดำรงตำเเหน่งเป็นนายก อบต. ในพื้นที่อำเภอบรรพตพิสัย     เริ่มรู้จักเพราะนายกอบต.คนนี้ได้มานั่งดื่มเหล้ากับพ่อแม่ของเพื่อน      หลายวันต่อมาเด็กหญิงหนึ่งได้ไปเดินห้างสรรพสินค้ากับเพื่อนๆ  เห็นชุดชั้นในผู้หญิงสวยๆ จนเกิดความอยากได้แต่ไม่มีเงินซื้อ   จึงตัดสินใจแอบขโมยชุดชั้นในนั้นเเต่ไปไม่รอดถูกพนักงานห้างฯ จับได้     และถูกดำเนินคดีส่งตัวเข้าสถานพินิจ

ต่อมา นายก อบต. คนดังกล่าวนี้  ได้มาเยี่ยมตนและยื่นข้อเสนอจะช่วยประกันตัวออกมา ** แต่มีข้อเเม้ต้องยอมไปหลับนอนกับเขาด้วย     ด้วยความที่ไม่อยากติดคุก อยากออกจากสถานพินิจให้เร็วที่สุดจึงทำการตกลงไป     หลังออกมาแล้วนายก อบต.คนนี้ได้กระทำชำเราเด็กหญิงหนึ่ง     โดยพอเสร็จกิจจะปลอบใจด้วยการให้เงินตนใช้ 1,000 บาท    จากวันนั้นเด้กหญิงหนึ่งก็ถูกกระทำชำเราเรื่อยมา     เด็กหญิงหนึ่งให้ข้อมูลว่าอยากเรียนหนังสือมากแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร

นายกอบต.คนนี้   ได้เช่าห้องให้ตนอยู่อาศัยกับเพื่อนๆ   เวลารวมตัวกับเพื่อนบางครั้งก็ชวนกันเสพยาเสพติด  เช่น   ยาไอซ์ หรือกิน “โปรโคดิล” คือเอายาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยาแก้ปวด ยาทรามาดอล ผสมกันน้ำอัดลม เมื่อดื่มแล้วจะมีอาการมึนเมาเหมือนกับดื่มแอลกอฮอล์ เพราะความเครียดคิดหาทางออกไม่ได้ว่าจะทำยังไงให้หลุดพ้นจากตรงนี้

ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.บรรพตพิสัย ได้ทำการส่งตัวเด็กหญิงหนึ่งไปตรวจร่างกาย   พบร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ และมีสารเสพติด (ไอซ์) อยู่ในร่างกาย ก่อนจะนัดสอบสหวิชาชีพโดยเด็กหญิงหนึ่งให้การชัดเจน หลังสอบสหวิชาชีพเสร็จทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลที่ก่อเหตุ ในข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี
อันดับ6 ปลัดอำเภอแม่เปิน อ้างถูกกลั่นแกล้งจากผู้บังคับบัญชาเพราะบุกจับเเกงค์ยาเสพติดเเล้วไม่รายงาน คู่กรณีเปิดหลักฐานปลัดเองทำผิดคดีอาญา สุดท้ายถูกย้ายไปหนองบัว
นายมนต์เอก กิจธิคุณ เป็นปลัดอำเภอแม่เปิน  ออกมาให้ข่าวว่าถูกผู้บังคับบัญชากลั่นเเกล้ง เหตุจากที่ตนเองบุกจับยาเสพติดในพื้นที่สีเเดงได้ของกลางยาบ้า 500 เม็ด และยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่งแล้ว  เเต่ในขณะบุกจับนั้นตนเองไม่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ  ทำให้ถูกสั่งย้ายมาช่วยราชการ โดยประจำอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ต้องอาศัยที่พักของอาสา ใช้ดำรงชีวิตอยู่ ไม่มีบ้านพักเเต่อย่างใด

ทีมข่าวนครสวรรค์ ลงพื้นที่ อำเภอแม่เปิน  พบแหล่งข่าวให้ข้อมูลอีกมุมหนึ่งของเรื่องนี้ ต้องบอกว่าเป็นที่น่าตกใจ  เพราะ ข้อมูลที่ได้รับต่างกันราวฟ้ากับเหวลึก  ดังนี้

1.ปลัดมนต์เอก บอกว่า ตนเองถูกย้ายเพราะ ไปบุกจับขบวนการค้ายาเสพติด แล้วไม่ได้รายงานผู้บังคับบัญชา       แหล่งข่าวแจ้งว่า  ปลัดมนต์เอกถูกย้ายเพราะ ถูกเพื่อนร่วมงานในกองการปกครองของอำเภอแม่เปินทุกคน ลงชื่อไม่พอใจพฤติกรรมของปลัดมนต์เอกตอนปฏิบัติงานในพื้นที่

2.ปลัดมนต์เอก บอกว่า ตนเองถูกกลั่นแกล้ง  แหล่งข่าวแจ้งว่า ปลัดมนต์เอก ถูกดำเนินทั้งคดีอาญา และ ทั้งด้านวินัย  ผู้บังคับบัญชาจึงต้องมีคำสั่งตามขั้นตอน ซึ่งถูกต้องแล้ว

3.ปลัดมนต์เอก บอกว่า ผู้บังคับบัญชานำพลาสติกสีเหลืองมากั้นห้องทำงานตนเอง ทำให้ไม่สามารถเข้าไปนั่งทำงานได้    แหล่งข่าวแจ้งว่า ห้องที่ปรากฏในข่าวว่าถูกกั้นนั้น ไม่ใช่ห้องทำงานของปลัดมนต์เอก และที่กั้นสาเหตุ คือ  เป็นห้องการเงินที่ปลัดมนต์เอก แอบปีนเข้าไปหวังจะทำลายหลักฐานบางอย่าง จึงกั้นไว้เพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่ปลัดมนต์เอกเรียบร้อยแล้ว

4.เอกสารที่ปรากฏในข่าวว่า นายอำเภอแม่เปินไม่อนุญาตตามคำขอของทางปลัดมนต์เอก  แหล่งข่าวแจ้งว่า  นั่นเป็นเพราะ  ปลัดมนต์เอกตั้งใจทำเอกสารมาแบบไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบ   ขึ้นหัวกระดาษว่า ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์   ต้องเป็น ผู้ว่า / รองผู้ว่า หรือผู้ปฏิบัติราชการแทน เท่านั้น  ปลัดอำเภอ ไม่มีสิทธิ์ในการทำเอกสารแบบนี้

ทั้งความผิดทางด้านคดีอาญา และความผิดทางด้านวินัย กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่   ในปัจจุบันนี้ ปลัดมนต์เอกถูกย้ายไปที่อำเภอหนองบัวเเบบเงียบๆเเล้ว

อันดับ5  จอนนี่ “สับเปลี่ยนบิ๊กไบค์” ทำทีขับรถ3เเสนมาขอลองรถล้านกว่า …..สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ
ข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2019  เกิดเหตุ มีหัวขโมยมาขอดูรถบิ๊กไบค์ ที่ร้าน S2 Special Parts  กลางเมืองนครสวรรค์เเละขอลองรถ สุดท้ายไปไม่กลับ

⛔ ส่วนไอ้หนุ่มหัวขโมยรายนี้ เจ้าของร้านค่อนข้างมั่นใจว่า   คือ นาย วงศกร กิ่งแก้ว 172/ ม.4 ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ชื่อเล่นหรือที่สาวๆยามค่ำคืนมักเรียกว่า “ไอ้หนุ่มจอนนี่”

⛔ ที่เจ้าของร้านค่อนข้างมั่นใจเพราะ  มันไม่ใช่คนอื่นคนไกลของเจ้าของร้าน   S2 Special Parts   หรอก  มันปรากฎตัวมาให้เห็นบ่อยๆ มาถามเรื่องอะไหล่เเต่งรถบ้าง  มาตีสนิทสอบถามราคา หรือ วิชาความรู้เรื่องรถบิ๊กไบค์บ้าง มาสอบถามอยู่เรื่อยๆ

⛔ และในเเวดวงการท่องราตรีเนี่ยนะ  เค้าเคยเห็นหน้าค่าตา “ไอ้หนุ่มจอนนี่” กันทั้งนั้น เพราะมันจะมีพฤติกรรม ชอบนำรถบิ๊กไบค์ยี่ห้อต่างๆมาขับขี่ในตัวเมืองนครสวรรค์ ขับไปจอดเท่ๆที่ถนนคนเดิน   ขับไปโชว์สาวตามร้านเหล้าต่างๆริมหนองสมบุญ ราวกับว่าบ้านรวยมีรถบิ๊กไบค์หลายต่อหลายคัน

⛔ สำหรับพฤติกรรมการก่อเหตุในครั้งนี้ ก็คือ ไอ้หนุ่มจอนนี่รายนี้ก็เข้ามาที่ร้าน S2 Special Parts  โดยขับขี่รถ CBR650 มา (ราคาประมาณ303,000 บาท)   และมาเดินไปเดินมาดูรถวนไปในร้านอยู่สักพักใหญ่ๆ  เเล้วทำท่าทีถูกใจรถอยู่คันหนึ่ง คือ  BMW S1100rr  (ราคาประมาณ 1,200,000 บาท)    และขอลองรถ โดยจอดรถ CBR650 ทิ้งไว้ที่ร้าน  สุดท้ายไอ้หนุ่มจอนนี่หายต๋อม ไม่กลับมาอีกเลย ปิดไลน์ ปิดเฟสบุ้คหนีไปเลยครับผม

⛔  เจ้าของร้าน คือ นายศรัณย์ภัทร  พิทักษ์อังกูร  เห็นว่าคงโดนเข้าเเล้วจึงเข้าเเจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รวบตัว “จอนนี่” ได้

อันดับ4 สารวัตรเเย้ ได้รับพัสดุจากไปรษณีย์ เปิดมาเป็นยาเสพติด ตำรวจบุกรวบตัวเเม่
ข่าวนี้ทำให้เกิดการปฏิวัติการขนส่งพัสดุทางไปรษณีย์ เเละการจับกุมผู้ต้องหากรณีมีพัสดุส่งมาที่บ้านใหม่เลยทีเดียว
เเม่ของ พ.​ต.ท.พิเ​ชษฐ เสาแ​บ​น หรือ คนนครสวรรค์รู้จักกันในนาม  “สาร​วัตรแ​ย้” ได้รับจ​ดหมายพั​สดุส่งมา เเม่จึ​งได้อ​อ​กไปรั​บ และก็ทราบว่าเป็น​พัสดุใช้​ชื่อ​ส่ง​ถึงลูกชาย​ตน ก็ไ​ม่ได้เอะใจอะไร   แต่เมื่อเซ็​นชื่อรับ​ขอ​ง ​ยังไม่ทัน​จะได้เ​ดินเข้าไปในบ้าน ​ก็มีก​ลุ่มบุ​คคลอ้า​งตัวเ​ป็นตำ​รว​จนับ 10 คน โผล่มา​จากไหนก็ไ​ม่รู้ เข้ามา​รุ​มล้อ​ม     พร้​อมกับถาม​ว่าพั​สดุอะไร    รู้หรือเ​ปล่าว่า​มียาบ้าอ​ยู่ในนั้น ก็รู้สึกตกใจ จึงไ​ด้​พยายาม​ที่จะโทรไ​ปหาผู้ใหญ่​บ้านให้มาช่ว​ยกันตร​วจ​สอบ  แ​ต่ปรากฏว่า ไม่​สามา​รถติ​ดต่อ​ผู้ใหญ่บ้านได้ เ​นิ่อง​จากถูก​ก​ลุ่มเ​จ้าหน้า​ที่ยึ​ดโทร​ศัพท์ไป พร้อม​กับให้เปิ​ดกล่อง​พัสดุ​ออกมาใ​ห้ดู ​จึ​งไ​ด้เห็​นว่ามี​ยาเสพติดบรร​จุ​อยู่ในก​ล่อ​ง แต่เเม่ก็ไม่รู้​ว่าเป็นยาอะไร ตำรวจได้ตรวจดูพ​บ​ว่าเ​ป็นยาไอซ์ 50 กรัมและยาอีสีขา​ว จำนว​น​กว่า 50 เม็ด   จากนั้นตำรวจบุกรวบตัวทันที

คดีนี้ยังไม่จบ กำลังสืบสวนสวบสวนกันอยู่ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร   ทางตำรวจคาดว่า สารวัตรเเย้ ไม่น่าจะเกี่ยวกับยาเสพติดที่ส่งมา คาดอาจถูกกลั่นเเกล้ง

อันดับ3 “ลุงเช้า  พรหมมา”  สามล้อรับจ้างวัย 80 ปี   ถูกทำร้ายร่างกายจนตาย
“ลุงเช้า  พรหมมา”  สามล้อรับจ้างวัย 80 ปี   ชาวปากน้ำโพก็เรียกว่าลุงติดปากแบบนี้มานานเเล้ว  ลุงเช้า ยึดอาชีพสามล้อรับจ้างมานานเเล้ว คนปากน้ำโพโดยเฉพาะเเถวตรอกชุณหงส์ก็จะคุ้นหน้าคุ้นตาแกเป็นอย่างดี   มีอะไรนิดอะไรหน่อยก็จะจ้างเเก เพราะก็เห็นอกเห็นใจกัน  อีกอย่างก็คือ เเกอาศัยอยู่กับเมียเเกรวมเเกเเล้วก็มีกัน 2 คน  แกเป็นคนหาเงินเลี้ยงเมีย   ดูเเลกันไป 2 คนเเบบขัดสน

เช้าตรู่วันที่ 25 เมษายน 2562  เวลาประมาณตี4กว่าๆ   เกิดเหตุลุงเช้าโดนทำร้ายร่างกายเนื้อตัวอาบเลือด  รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์สักพักนึงก็เสียชีวิต ญาติของลุงเช้าได้นำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดช่อง

ชุดสืบสวนนำทีมโดย พ.ต.ท.หิรัญ ภู่ตระกูล รองผู้กำกับสืบสวนสภ.เมืองนครสวรรค์ได้ทำการเเกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครนครสวรรค์รวมถึงกล้องจากร้านค้าใกล้ที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายใช้ท่อนเหล็กตีหัวลุงเช้า    ทางตำรวจสืบจนมั่นใจเเล้วจึงทำการขอหมายจับ หมายค้น จากศาลจังหวัดนครสวรรค์   เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม  นายพีระพงษ์ ป้องป้อม

คดีนี้ปัจจุบันยังเงียบอยู่ ไม่รู้ผลของคดีเป็นอย่างไร
อันดับ2  ปากน้ำโพรันนิ่ง ครั้งที่1 ดราม่าทั่วประเทศ จัดโคตรห่วย
งานวิ่งอย่าง “ปากน้ำโพรันนิ่งครั้งที่1”    ทุกๆคนที่ไปร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานนี้ “ไม่มีอะไรดีเลย” จัดงานห่วย ไม่มีเหรียญไม่มีถ้วย ไม่มีการรับผิดชอบใดๆ   ตามหลักฐานที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของงานว่า หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำรายได้ไปสมทบทุนจัดซื้ออุปกรรืการเเพทย์ ณ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์  ปรากฎชื่อผู้ที่ทำหนังสือประสานกับโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์    ก็คือ  นายภูวเดช จันทร์ประดิษฐ์   มีทั้งหลักฐานที่เป็นรูปถ่ายที่ทางโรงพยาบาลประชาสัมพันธ์ รวมถึงเอกสารขอความอนุเคราะห์

ทางด้านโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ออกมาเเถลงข่าวโดยผู้อำนวยการ  ว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับผู้จัดเเต่อย่างใด

สรุป นายภูวเดช จันทร์ประดิษฐ์ ได้ออกมาชี้เเจงค่าใช้จ่ายว่า จากรายได้ทั้งหมด 6 เเสนกว่าบาทเหลือทำบุญให้โรงพยาบาล 17000 กว่าบาทเท่านั้น

ตอนนี้คดีนี้ก็ยังเงียบๆอยู่ ไม่เเน่ใจว่า ผู้เสียหายได้ประสงค์จะดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร

มาถึง อันดับที่ 1  ประจำปี 2019    คือข่าว ตำรวจศูนย์ฝึกฯภาค6 ควักปืนยิงพ่อค้าขายลูกชิ้นหน้าธนาคารกรุงไทยตรงข้ามบิ๊กซี2นครสวรรค์
ข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อ เดือนธันวาคม 2019 นี่เอง   นายป๊อ คือ นายวิศิษฏ์ วงศ์สวัสดิ์ภักดี อายุ 41 ปี   มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายลูกชิ้น อยู่ในตัวเมืองปากน้ำโพนครสวรรค์ เป็นคนนิสัยดี  เป็นที่รักของคนนครสวรรค์

  • นายป๊ออายุ 41 ปี  พาคุณเเม่อายุ 73 ปี ไปกดเงินที่ตู้ATM ธนาคารกรุงไทย สาขามาตุลี ตรงข้ามบิ๊กซี2  ตัวเมืองนครสวรรค์
  • คุณเเม่ของนายป๊อ มีอาชีพรับซื้อรางวัลสลากกินเเบ่งรัฐบาล   ที่มากดเงินก็เพราะจะเตรียมเงินไปให้ลูกค้าที่ต้องนำสลากที่ถูกรางวัลมาขึ้นเงิน
  • ในขณะที่กดเงินอยู่นั้น  นายป๊อก็นั่งรอที่รถ   ให้เเม่ไปกดเงินที่หน้าตู้atm คนเดียว
  • สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมป้ายทะเบียน ใส่หมวกเเก้ป เข้ามาพูดประมาณว่า “รู้นะว่าทำอาชีพปล่อยเงินกู้น่ะ จะเเจ้งตำรวจมาจับ”
  • นายป๊อเห็นท่าทางไม่ดีถึงเดินมาที่ตู้atm  และได้พูดคุยกับผู้ชายคนนี้   ผู้ชายคนนี้ก็พูดอีกว่า “”รู้นะว่าทำอาชีพปล่อยเงินกู้น่ะ จะเเจ้งตำรวจมาจับ”
  • นายป๊อก็บอกว่า เเม่ผมขายหวยรัฐบาลไม่ได้ปล่อยเงินกู้  จะเเจ้งตำรวจก็เเจ้งมาได้เลย
  • สักพักผู้ชายคนนี้ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป ได้ประมาณ 5 นาที เเล้วขี่กลับมาใหม่
  • ชายคนนี้กลับมาที่ตู้ atm เเละพูดจาเเบบเดิมว่า “รู้นะว่าทำอาชีพปล่อยเงินกู้น่ะ จะเเจ้งตำรวจมาจับ”
  • ผู้ชายคนนี้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ  นายป๊อจึงขอดูบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน เเต่ผู้ชายคนนั้นอ้างว่า “ไม่มี”
  • จากนั้นผู้ชายคนนี้ มาดึงตัวเเม่ของนายป๊อไปพร้อมกับพูดว่า “เราต้องมาคุยกันหน่อย จะเเจ้งตำรวจมาจับ” ทำแบบนี้ประมาณ 2 ครั้ง
  • นายป๊อเห็นท่าไม่ดีเลยชกเข้าไปที่ชายคนนี้ 1 หมัด ก่อนจะสู้กันไปมา เเละชายคนนี้ก็ชักปืนเข้ามายิงใส่ท้องน้อยด้านซ้ายของนายป๊อ 1 นัด
  • เดชะบุญว่ายิงไม่เข้า (เข้าไม่ลึก)  นายป๊อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีอาวุธ จึงยกมือเเสดงท่าทียอม  ในที่สุดก็เเยกย้ายกัน
  • นายป๊อ ได้เข้าเเจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์   ทราบว่า ผู้ชายคู่กรณี เป็นตำรวจจริงยศ พันตำรวจโท มีตำเเหน่งเป็นถึงรองผู้กำกับศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค6
  • นักข่าวได้ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.เบญจรงค์ รัตนบัวพา ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค6   แต่ทางผู้การศูนย์ฝีกยังไม่สะดวกจะให้ข้อมูล
  • นักข่าวได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.สุกฤษฎิ์ บุญทรง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครสวรรค์    ท่านได้เเจ้งว่าขณะนี้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและ ได้สั่งการให้ดูแลในเรื่องคดีให้รอบครอบเพราะว่าคนกระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชนอย่างเต็มที่

ความคืบหน้าคดีนี้ คือ  หลังจากเกิดเหตุ นายป๊อได้ตรวจร่างกายพบ กระสุนฝังในร่างกายตรงบริเวณเเก้มก้นด้านซ้าย   ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ด้านนายตำรวจคู่กรณีก็กำลังรวบรวมหลักฐานสู้คดีกันอยู่
พบกับข่าวสารต่างๆของ ข่าวนครสวรรค์.com เเละ ข่าวนครสวรรค์เเฟนเพจได้ ปี 2020 นะครับ

รายงานโดย  ตั่วถั่ง นิวส์ พีอาร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
————
ผู้ผลิต
ข่าวนครสวรรค์แฟนเพจ
www.facebook.com/khaonakhonsawan
ข่าวนครสวรรค์ เว็บไซต์
www.khaonakhonsawan.com/
www.ข่าวนครสวรรค์.com

——–
เเจ้งข่าว,ติดต่อทำข่าว ติดต่อประชาสัมพันธ์ได้ที่ 056-213944 , 095-6376337 , 062-8235141 ,064-8946166
———

Facebook Comments

Leave A Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

Share via
Copy link
Powered by Social Snap