องค์เทพที่ลานบุญตรุษจีนปากน้ำโพ “รู้ความหมาย ไหว้ถูกต้อง ชีวิตเป็นมงคล”

Spread the love


เทพเจ้าแชกง
   มีประวัติเล่าต่อกันมาว่า อดีตท่านเป็นนายพลแชกง ในสมัยราชวงศ์ซ่งของจีนและเป็นนายพลที่คุ้มครองให้ฮ่องเต้ราชวงศ์นี้อยู่รอดปลอดภัย นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวที่พับกังหันลมกระดาษ เสียบไว้หน้าหมู่บ้านตามคำบอกเล่าของนายพลแชกงเพื่อไล่โจรสลัด ที่จะมาปล้นหมู่บ้านซ่าถิ่น ท้ายสุดโจรสลัดก็ออกไปจากหมู่บ้านโดยไม่มีการปล้นสะดม   ที่วัดแชกงหมิวหรือ วัดกังหันลม ที่ เกาะฮ่องกง  ผู้คนจะกราบไหว้เทพเจ้าแชกง  และ “หมุนกังหันแห่งโชคชะตา” คือ ถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมาดีอยู่แล้ว ให้ หมุนจากซ้ายไปขวา ส่วนถ้าไม่ดีเลย ให้หมุนกังหันกลับจากขวาไปซ้าย   โดยมีความเชื่อว่าการหมุนกังหันกลับทิศ จะช่วยหมุนชีวิตพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีได้ ใครที่ชีวิตที่ผ่านมาไม่ดีอย่าลืมแวะไปกราบไหว้ขอพร เทพเจ้าแชกง เพื่อให้ชีวิตพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีกันนะครับ

   เทพเจ้าหวังต้าเซียน เดิมท่านชื่อ “หว่องช้อเผ่ง” เป็นเพียงปุถุชนธรรมดาคนหนึ่งอาศัยอยู่ที่มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ท่านได้ชื่อว่ามีความเมตตาต่อผู้คนเป็นอย่างมาก แถมยังมีความกตัญญูต่อบิดามารดาและคอยช่วยเหลือบุพการีตั้งแต่เล็ก วันหนึ่งในขณะที่ท่านกำลังดูแลเลี้ยงแพะอยู่นั้น ได้พบกับนักพรต และได้ถูกชักชวนให้ไปร่ำเรียนวิชาบนภูเขาที่ห่างไกล ท่านศึกษาจนบรรลุธรรมตั้งแต่อายุ 15 ปี ท่านได้ร่ำเรียนศึกษาเรื่องสมุนไพร จนเชี่ยวชาญและได้เดินทางรักษาผู้คนที่เจ็บไข้และคนที่เดือดร้อนไปทั่ว เมื่อถึงคราวที่เกิดโรคระบาดใหญ่ ท่านได้ใช่วิชาการแพทย์ที่มี จัดยาสมุนไพรให้แก่ชาวบ้าน จนพ้นเคราะห์ภัย   คุณงามความดีที่ท่านได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตลอดเวลาถึง 40 ปี ทำให้ชาวบ้านยกย่องให้ท่านเป็นเทพเจ้า หวังต้าเซียน  

“เฉ่งจุ้ยโจวซือ”  เป็นพระภิกษุที่มีความเคร่งครัดใน ศีลาจารวัตรและปฏิปทาอันน่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก ชอบช่วยเหลือผู้คนในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านยารักษาโรคทางแพทย์แผนจีน และยังช่วยเหลือพัฒนาและสร้างสาธารณะประโยชน์ เช่น ถนนหนทาง สะพาน เพื่อมวลชนทั่วไปจนปรากฏคุณงามความดีต่างๆ อีกทั้งยังเป็นที่พึ่งพิงของสาธุชนทั่วไป  เมื่อยามปฏิบัติธรรม ท่านมักจะเจริญภาวนานั่งสงบบนโขดหินกลางแอ่งน้ำอันใสเย็นอยู่เสมอๆ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ศิษยานุศิษย์ต่างก็เรียกท่านว่า เฉ่งจุ้ยโจวซือ เพราะภูเขาฮ่องหลายซานมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้นานาพรรณแล้ว ยังมีน้ำสะอาดใสไหลมาจากหน้าผาจนเป็นน้ำตก ศิษยานุศิษย์ท่านจึงเอาคำว่า    “เฉ่งจุ้ย” แปลว่า “น้ำใส” มาไว้นำหน้าสรรพนาม คือ “โจ่วซือ” แปลว่า“หลวงปู่” หรือ “ปรมาจารย์” รวมกันคือ “เฉ่งจุ้ยโจวซือ” แปลว่า “ปรมาจารย์น้ำใส” หรือ  เทพเจ้าแห่งน้ำธรรมชาติ นั่นเอง ที่สำคัญ ท่านยังถือว่าเป็น  สมเด็จพระสังฆราชองค์แรกที่ถือกำเนิดขึ้นในแผ่นดินจีน เลยทีเดียว

เทพหน่าเก็กเซียงอง  หรือ  “เทพเจ้าแห่งอายุวัฒนะ” เคารพกราบไหว้ขอพรให้อายุยืนยาว  โดยเฉพาะขอพรให้กับผู้สูงอายุ   เทพเจ้าแห่งอายุวัฒนะ นั้น  ชาวแต้จิ๋วรู้จักกันดีว่าเป็น 1 ใน 3 ของเทพเจ้า “ฮก” “ลก” “ซิ่ว”) แท้ที่จริงคือบรรพบุรุษต้นตระกูลเผิง  ซึ่งเป็นนามสกุลหนึ่งของชาวจีนในปัจจุบัน โดยผู้เฒ่าผู้นี้มีอายุยืนยาวถึง 767 ปี   ดำรงชีวิตอยู่ที่ตำบลเผิงซาน เมืองเหมยซาน มณฑลเสฉวน การมีอายุวัฒนะของผู้เฒ่าเผิงนี่เองที่สร้างตำนานเล่าขานถึงเคล็ดลับการบำรุงร่างกายให้มีอายุมั่นขวัญยืน และก่อเกิดตำนาน “เทพเจ้าซิ่ว” มาจนถึงทุกวันนี้

เทพซิ้งล้ง   เล่าต่อกันมาว่า หลังจากที่เชื้อโรคและสัตว์มีพิษทั้งหลายที่เจ้าแม่ฮ้วงบ้อเนี๊ยหลุดออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน  มีชายคนหนึ่งชื่อ ซิ้งล้ง เขาเป็นคนที่มีจิตใจดีพอเห็นคนป่วยจึงคิดว่าน่าจะมีสมุนไพรอะไรที่สามารถช่วยชาวบ้านได้บ้างเขาจึงทดลองกินสมุนไพรทุกชนิด พอเรื่องนี้เข้าหูเจ้าแม่ฮ้วงบอเนี๊ย นางจึงเห็นในความดีของซิ้งล้งและได้มอบ แส้วิเศษที่สามารถจะทดสอบสมุนไพรได้ว่าชนิดใด เป็นอย่างไร แส้เปลี่ยนเป็นสีแดง   แปลว่า   พืชชนิดนั้นมีสรรพคุณกินแล้วร้อน แส้เปลี่ยนเป็นสีขาว   แปลว่า   พืชชนิดนั้นสรรพคุณกินแลัวเย็น   แต่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นสีดำ   แปลว่า   พืชชนิดนั้นมีพิษ  ชาวจีนได้ยกย่องว่า ซิ้งล้ง เป็นเทพเจ้าแห่งเกษตร     

เทพธิดาเก้าชั้นฟ้า    ท่านเป็นเทพแต่โบราณกาลมีอำนาจ และความศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากได้ปกป้องคุ้มครองประเทศ ให้ร่มเย็น ปลอดจากข้าศึกศัตรู คอยแนะนำ ช่วยเหลืองานศึก งานรบ ให้ชนะศึกครั้งแล้วครั้งเล่า  เง็กเซียนฮ่องเต้ จึงได้มีพระราชโองการแต่งตั้ง ให้สมญานามว่า “กิวเทียงเนี่ยเนี้ย” หมายถึง เทพสตรีผู้ศักดิ์สิทธิ์ในสวรรค์ทั้ง 9 ชั้น  

พระมัญญูชูศรีมหาโพธิสัตว์ พระองค์ทรงเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย โดยรวมมีความหมายว่า “ประเสริฐยิ่ง มงคลยิ่ง หรือสวยงามยิ่ง” ซึ่งพระองค์เปรียบเสมือนองค์แทนของพระมหาปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง พระองค์จะทรงปรากฏเป็นผู้บรรยายธรรม หรือโต้ธรรมกับพระโพธิสัตว์ด้วยกัน เพื่อความมีสติปัญญาดี รู้แจ้งในอรรถธรรมที่ลึกซึ้ง พระรูปของท่าน จะอยู่ใน ลักษณะที่ท่านกำลัง ประทับบนพญาราชสีห์สีเขียว  โดยพญาราชสีห์ที่ท่านทรงนั้น แสดงให้ เห็นถึงสัตว์ที่มีความกล้าหาญ ไม่ครั่น คร้านเกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น อุปมา ได้ดั่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ ที่ท่านไม่เกรงกลัวต่อ ความลำบาก, มาร หรืออุปสรรคใดๆ ทั้ง ปวง 


พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ (ในสำเนียงแต้จิ๋วนิยมเรียกว่า โผวเฮี้ยงผ่อสัก  พระองค์ทรงเป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระศากยมุนีพุทธเจ้า ในขณะที่พระมัญชุศรีโพธิสัตว์เป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย ดังนั้น ในคตินิยมทางพุทธศิลป์จึงนิยมการสร้างประติมากรรมหรือจิตรกรรมรูปพระศากยมุนีพุทธเจ้า พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ และพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ เรียกกันเป็นองค์สาม อันเป็นสัญลักษณ์แห่งแดนสุขาวดี พระองค์จะทรงนั่งบนหลังสัตว์วิเศษที่เป็นสัตว์พาหนะคือ ช้างเผือกหกงา พระองค์ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ผู้เป็นตัวแทนแห่งการกระทำแต่ความดีสู่โลกหล้า บ้างเรียกว่า เป็นพระโพธิสัตว์แห่งวิถี

ฮั้วฮะเซียน หรือ เทพเจ้าแห่งความปรองดอง  องค์นี้เป็นองค์ที่บ้านเมืองประเทศไทยต้องกราบไหว้มากที่สุดในเวลานี้    เทพฮั้วฮะ  เป็นเทพปรองดองและเป็นสัญลักษณ์ ของความรักใคร่สามัคคี สาธุชนทั่วไปนิยมบูชา เพื่อขอพรให้เกิดความรัก ความสามัคคีในคู่ครอง ครอบครัว สำนักงานและองค์กรต่างๆ ที่ตนสังกัดอยู่

 “พระสังกัจจายน์”  หรือ ที่นิยมเรียกกันว่า “พระสังกัจจายน์โพธิสัตว์”  ในงานตรุษจีนปีนี้ เราจะเห็นได้ว่า ที่ลานบุญนั้นประทับเด่นสง่าสวยงามอยู่ตรงกลาง “พระสังกัจจายน์โพธิสัตว์”  เป็นคำเรียกกันทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งเป็นองค์เดียวกันกับคำเรียกทางพุทธศาสนาฝ่านหินยานคือ (พระศรีอารยเมตไตรย) อันเป็นคติความเชื่อทางพุทธศาสนาที่หมายถึงพระพุทธเจ้า องค์ใหม่ ที่จะบังเกิดมาในอนาคตกาล ณ เวลานั้น เชื่อกันว่า สันติสุขอันแท้จริงจะบังเกิดขึ้นแก่มวลมนุษยชาติ
ชาวพุทธกราบไหว้สักการบูชาพระสังกัจจายน์เพื่อให้บังเกิดความเป็นสิริมงคล 3 ประการแก่ตนเองและครอบครัว  คือ  โชคลาภและความอุดมสมบูรณ์  สติปัญญา   ความงามและความมีเสน่ห์
 ดังนั้น พระสังกัจจายน์ขี่เต้ามังกรนั้น จึงเป็นมงคล3ชั้นหนุนเสริมกันให้ผู้บูชามีโชคลาภวาสนามั่งคั่งร่ำรวย เหลือกินเหลือใช้ อายุวัฒนะมีสิริมงคล

รับรู้เรื่องราวขององค์เทพเจ้า แต่ละองค์แล้ว อย่าลืมลงไปกราบไหว้สักการะกันที่หาดทรายต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยาตรุษจีนปากน้ำโพในปีนี้กันนะครับ

ซินเจียยู่อี ซินนี้ฮวดใช้ เฮงๆรวยๆกันนะครับ ชาวนครสวรรค์ทุกท่านครับ

 
เดี๋ยวนี้ติดตามข่าวท้องถิ่นได้ที่
———
ข่าวนครสวรรค์แฟนเพจ
www.facebook.com/khaonakhonsawan
ข่าวนครสวรรค์ เว็บไซต์
www.khaonakhonsawan.com/
www.ข่าวนครสวรรค์.com

 

 

Facebook Comments

Share via
Copy link
Powered by Social Snap