ค้างคาวเต็มหนองสมบุญ…ส่งกลิ่นเหม็นเเละเสียงดังอาจเป็นพาหะนำโรค หน่วยงานวางเเผนขับไล่[ข่าวนครสวรรค์]
หลังจากอุทยานสวรรค์หรือ “หนองสมบุญ” ต้องปิดชั่วคราวลงไปในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการฟื้นฟูระบบนิเวศภายในของหนองสมบุญ นอกจากเหล่า “ตัวเงินตัวทอง” ที่เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วเเล้ว ล่าสุด จำนวนของ “ค้างคาว” ก็เเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน จากหลักสิบกลายเป็นหลายร้อยตัว
จนกระทั่งจำนวนของค้างคาวเริ่มสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่มาออกกำลังกายเเละทำกิจกรรมต่างๆในหนองสมบุญ กล่าวคือเริ่มส่งเสียงดังเเละที่สำคัญส่งกลิ่นเหม็นจนกระทั่ง คนที่มาออกกำลังกายประเภท “รำวง” ที่เป็นผู้สูงอายุหลายคนต้องออกอาการอาเจียนมาเเล้ว
ทำให้ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ต้องพยายามหารือกันอย่างหนักว่าต้องทำอย่างไร
จนกระทั่งทาง นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต้อง มอบหมายให้นายปิยะ เสรีรักษ์ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ กับ เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ออกไปสำรวจตรวจสอบค้างคาวดังกล่าว ก็พบว่า ในบริเวณพื้นที่อุทยานสวรรค์ มีค้างคาวจำนวนมากมาอาศัยอยู่ต้นโพธิ์ และ ต้นก้ามปู ใกล้กับประตูที่ 11 ส่งกลิ่นของปัสสาวะและมูล สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้มาออกกำลังกายจริงตามข่าว นอกจากนั้นเกรงว่าอาจจะเป็นพาหะน้ำเชื้อโรคจ่างๆมาสู่คนได้หากเป็นค้างคาวสายพันธ์ุที่มาจากต่างประเทศ
นายสัตวแพทย์ ปิยะ เสรีรักษ์ ได้แนะนำให้ใช้วิธี ฉีดน้ำไล่ โดยให้ทำในเวลาช่วงเช้ามืด ก่อนที่ค้างคาวแม่ไก่ จะกลับมาเกาะที่ต้นไม้เพื่อนอนในเวลากลางวันโดยให้ทำแบบนี้ติดต่อกันเป็นอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เพื่อเป็นการก่อกวน และให้ค้างคาวแม่ไก่อพยพออกจากพื้นที่ โดยไม่ทำร้ายให้บาดเจ็บ ทั้งนี้ค้างคาวแม่ไก่ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ปี พ.ศ. 2562 ดังนั้นการทำร้ายค้างคาวแม่ไก่ โดยไม่มีเหตุอันควร จะมีความผิด
ต้องขอบคุณ
เทศบาลนครนครสวรรค์
นายสัตวแพทย์ปิยะ เสรีรักษ์
นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สบอ. 12(นครสวรรค์)
นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12(นครสวรรค์)
มา ณ ที่นี้ด้วย