“หาดเสลา”….ปัญหาเดิมๆที่ยังเคลียร์ไม่ลงตัว อาจทำให้ปีนี้ไม่ได้ขายของอีกหนึ่งปี[ข่าวนครสวรรค์]

ชาวบ้านเเถวนั้นก็ขายของมายาวนานนับสิบๆปี ตั้งเเต่หาดเสลาแห่งนี้ยังไม่โด่งดัง จนถึงช่วงหลังๆมีการจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของนครสวรรค์ ในช่วงสงกรานต์ของเเต่ละปี

แต่ทางจังหวัดได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมหลายกรณีที่เกี่ยวกับ “หาดเสลา” เเละพบว่า เป็นการ “นำพื้นที่สาธารณะไปหาผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงๆตามที่โดนร้องเรียน” (กรณีนี้ยืนยันได้จาก ตัวอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดท่านหนึ่ง ลงพื้นที่ด้วยตนเอง ไปสอบถามเเม่ค้า สอบถามชาวบ้าน ประชาชนไม่รู้ว่าท่านคือผู้ว่าจึงเล่ารายละเอียด เเละบรรยายให้ฟังจนหมดสิ้น)

พอเรื่องมาถึงจุดนี้ภาครัฐก็มิได้นิ่งนอนใจ พยายามหาทางออกให้ จึงต้องทำให้ถูกต้อง ถูกกฎหมาย โดยวิธีการให้ท้องถิ่นเป็นผู้ดูเเล เขียนเป็นโครงการนำเสนอต่อ หน่วยงานที่รับผิดชอบ ก็คือ “กรมเจ้าท่า” ขออนุญาตจัดล็อคให้เช่า ทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้โปร่งใส ออกกฎในการใช้สถานที่ให้ปลอดภัย เเละรักษาภาพลักษณ์ เเต่ ประชาชนบางกลุ่มก็ไม่เห็นด้วย ไม่พอใจ (อาจด้วยเสียผลประโยชน์ เพราะ เดิมทีตนเองเคยเก็บค่าล็อคให้คนอื่นมาเช่าทีได้ เเต่ถ้าให้ท้องถิ่นมาดูเเล คงจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ทั้งๆเป็นที่สาธารณะ)

พอคุยกันไม่ลงตัว ก็ไปได้ทางเลือกอีกทางนึงก็คือ ไม่ต้องให้ท้องถิ่นเป็นเจ้าภาพก็ได้ ชาวบ้านกันเองนี่เเหละรวมกลุ่มกันเป็นเจ้าภาพเลย เขียนโครงการขึ้นมา ขออนุญาตให้ถูกต้อง ก็เกิดปัญหาระหว่างชาวบ้านกันเอง เรื่องราวก็คาราคาซังมาโดยตลอด

แต่ลึกๆเเล้ว ที่ผ่านมาพอชาวบ้านดูกันเองเเล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างรู้ไหม?

– ไม่รักษากฎระเบียบกัน

– มีการเเอบขายเเอลกอฮอร์ จนนำไปสู่การทะเลาะวิวาท มีคนตาย ปีเว้นสองปี

– ขึ้นราคาสินค้า เช่น น้ำดื่มขายเกินราคา

– นำเเคร่ ซุ้ม ลงไปตั้งในน้ำ ซึ่งผิดกฎเรื่องของระบบสาธารณสุข เเถมเก็บค่าเช่านักท่องเที่ยวเเพงเกินควรอีกต่างหาก

– ชาวบ้านทะเลาะกันเอง หากซื้อของฝั่งใต้ ห้ามไปนั่งฝั่งเหนือ หากอยากจะนั่งฝั่งเหนือ ห้ามมาซื้อของฝั่งใต้

ฯลฯ

มาถึงปีที่เเล้ว 2563 เกิดโรคระบาดโควิด-19 จึงต้องมีการปิดหาดไปโดย ปัญหายังเคลียร์กันไม่ลงตัว

พอมาปีนี้ มีการประชุมกันถึง 2 ครั้ง 2 ครา หาข้อตกลงร่วมกัน โดย “กรมเจ้าท่า” ก็นำเสนอเเบบเดิม เพราะ กฎหมายมันเขียนอย่างนั้น หากยอมให้เปิดหาด ลงไปขายของกัน ก็ถือว่ายอมให้กระทำการผิดกฎหมาย อาจต้องติดคุกกันหมด ตั้งเเต่ กรมเจ้าท่า อบต. รวมถึงประชาชน

เช้าวานนี้เป็นการประชุมครั้งล่าสุด หลังจากผลของการประชุมไม่โอเคกัน ชาวบ้านบางส่วนไม่ยอม เเละ อ้างกับกรมเจ้าท่าว่า “ชาวบ้านขายของมาเป็น10ปี ทำไมจะขายอีกไม่ได้” เกิดการถกเถียงกันเล็กๆน้อยๆ

**ท้ายที่สุด หลังการประชุม ก็เกิดกระทู้ เกี่ยวกับ “หาดเสลา” ดราม่าก็เกิดขึ้น**

ยังมีการหยิบยกว่า ในพื้นที่ตำบลเดียวกัน มี “ตลาดเจ้าค่ะ” สามารถเปิดได้ เเต่ทำไม “หาดเสลา” เปิดไม่ได้ ใส่ไฟ ใส่ข้อมูลกันไปต่างๆนานา อ่านโพสนี้เเล้วก็ลองไปทำความเข้าใจกันดูล่ะกัน ว่าเกี่ยวอะไรกับโควิด19 มากน้อยขนาดไหน ปัญหาที่เเท้จริงอยู่ตรงไหน

***พื้นที่หาดเสลา มีถนนกั้นกลาง อีกด้านนึงเป็น บ้านเรือนของชาวบ้าน แบบนี้ ไม่เข้าข่าย “ที่งอก” ตามกฎหมายยังถือว่าเป็นที่สาธารณะของหลวง จะมาอ้างเป็นที่ตนเองไม่ได้ ควรทำให้มันถูกต้อง ถูกกฎหมาย “การที่เราทำอะไรมาอย่างยาวนานเป็น 20 ปี เเต่มันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ก็ไม่ใช่หมายความว่า เราจะทำสิ่งนั้นได้เเบบเดิมต่อไป”

****เหตุการณืดำเนินมาเเบบนี้     ชาวบ้านก็สามารถรวมตัวกัน เขียนโครงการเองผ่าน อบต.เขาดิน หรือ ยกให้ท้องถิ่นอย่าง อบต.เขาดิน เป็นคนจัดการ “หาดเสลา” ส่งต่อไปยัง กรมเจ้าท่า   โดย  พื้นที่หน้าบ้านใคร ก็ขอให้ได้สิทธิ์ในการขายของเองก่อน(ไม่ใช่ขอที่ไปให้คนอื่นเช่านะ)

อบต.เขาดิน สามารถทำ “ตลาดเจ้าค่ะ” ให้มีชื่อเสียงระดับนี้ได้ กับ “หาดเสลา” สเกลงานที่มีระยะเวลาเเค่ 2 เดือนกว่าๆ คงไม่เกินความสามารถเป็นเเน่เเท้ อยู่ที่ว่าชาวบ้านจะยอมกันหรือไม่…อย่างไร??

ปล.อดีตผู้ว่าลงพื้นที่ปี 2562 รู้เรื่องราวเเล้วถึงกับต้องประชุมหน่วยงานรัฐเรื่องนี้ เพราะเอาจริงๆ ทุกคนอาจติดคุกกันได้เลย (ปัจจุบันท่านเกษียณราชการไปเเล้ว)