
“ยิ่งกว่านิยาย”ลูกจ้างร้านน้ำส้มปากน้ำโพแจ้งความถูกนายจ้างทารุณกรรมข่มขืน[ข่าวนครสวรรค์]
เรื่องนี้ต้องบอกว่า “เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย” จริงๆ เมื่อ วันที่ 28 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยผ่านแฟนเพจว่า ได้รับการร้องทุกข์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2559 จาก นางปาริฉัตร อายุ 24 ปี ผ่านสายด่วน 1134 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถูกนายจ้าง 2 สามีภรรยาเจ้าของร้านน้ำส้มเมืองปากน้ำโพหลอกใช้เเรงงาน ทารุณกรรมทำร้ายเเละข่มขืน
เรื่องราวของลูกจ้าง(นางปาริฉัตร) ที่ถูกกระทำจากนายจ้าง2สามีภรรยาคู่นี้ตามคำบอกเล่าของ นางปาริฉัตร คือ
เมื่อ 25 กรกฎาคม 2559 นางปาริฉัตร ได้ไปส่งน้ำพริกเเมงดาที่ร้าน สุทธิ เป็นร้านอาหารอยู่บริเวณริมชล ชาวนครสวรรค์จะรู้จักดี ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับ 2 สามีภรรยาคู่นี้(มิใช่เจ้าของร้านสุทธิ เป็นเพียงลูกค้าที่มานั่งทานอาหาร) เหตุจาก2สามีภรรยาคู่นี้ได้นำน้ำส้มมาให้นางปาริฉัตรเเละคนในร้านได้ลองชิม นางปาริฉัตรรู้สึกว่าน้ำส้มมีรสชาติอร่อยดี ประกอบกับเป็นคนมีหัวทางด้านการทำมาค้าขายจึงขอเเลกไลน์กันไว้
ต่อมา 2สามีภรรยาคู่นี้จึงได้เอ่ยปากชักชวนนางปาริฉัตรกับสามีไปทำงานด้วย พอทำงานด้วยกันได้สักพักนึงสามีของนางปาริฉัตรก็ขอเลิกเพราะเป็นงานที่หนักเกินไป ทำให้ในเวลานั้นเหลือเพียงนางปาริฉัตรเพียงคนเดียว
เรื่องมันมาพีคที่สุดตรงนี้ครับคุณผู้อ่าน พฤติกรรมของ 2 สามีภรรยาคู่นี้ตามคำบอกเล่าของนางปาริฉัตรคือ
หลังจากตกลงกันไว้ว่าจะให้ค่าเเรงวันละ 300 บาท แต่ถ้าวันไหนทำยอดขายน้ำส้มได้ไม่ถึงเป้าที่กำหนดไว้จะถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก และมีอยู่ครั้งหนึ่ง ทั้งสองคนชวนนางปาริฉัตรนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ ในระหว่างทางได้จอดรถแวะปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง คนเป็นภรรยาได้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำปล่อยให้นางปาริฉัตรอยู่ในรถกับผู้เป็นสามีกันสองต่อสอง จากนั้นนางปาริฉัตรก็ถูกข่มขืนในรถ ซึ่งนางปาริฉัตรเชื่อว่าทั้ง2สามีภรรยาคู่นี้ต้องรู้เห็นเป็นใจเรื่องนี้ด้วยเเน่ๆ เพราะในเวลาต่อมาได้ชักชวนตนให้เป็นภรรยาน้อย แถม ยังมีการร่วมรักโชว์ให้นางปาริฉัตรดูด้วย
นอกเหนือจากนั้น เช่น ใช้ไม้กวาดตีหลัง เตะเบ้าตา ตบปาก กร้อนผม และ ยังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายโรคจิต คือ บังคับให้กินท้องแทบแตก หายใจแทบไม่ออก ถ้าอ๊วกออกมาก็ต้องกินอ๊วกเข้าไปใหม่ อาหารมื้อเย็นสุดซื้อมาให้กินทุกวันคือข้าวผัด 2 จาน น้ำเต้าหู้หวานๆ 3-5 ถุง ขนมปังสังขยา 1 ชุด บัวลอย 3 ถุง เครื่องดื่มรอบดึกก่อนเข้าบ้านของนางปาริฉัตรที่ให้ดื่มทุกวัน คือ น้ำกาแฟ/โอวัลติน เซเว่น แก้ว 22 ออนซ์ กดเต็มแก้วไม่ต้องใส่น้ำแข็ง จำนวน 2 แก้ว บังคับให้กินให้หมด ในระยะทางจากเซเว่นไปถึงหอ ประมาณ 2 กิโลเมตร หวานแสบคอ พอถึงหอ ยังต้องกินขนมปังสังขยาอีก บางวันถ้ากินอะไรเหลือก็เอามาให้กินให้หมด กินจนอ๊วกแล้วอ๊วกอีก บางวันนั่งกินจนถึงตี 4 ก็ยังไม่หมด กินเสร็จต้องไปซักผ้าต่อค่อยนอนได้ ซักเสร็จก็เช้า ต้องรีบนอน รีบตื่น
ล่าสุดนางปาริฉัตรทนไม่ไหว จึงอาศัยจังหวะที่ออกมาขายของหลบหนีมาได้ และเกรงว่าทั้งสองคนจะตามมาทำร้ายอีกจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ก่อนตัดสินใจขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ให้ความเป็นธรรมติดตามคดี
26 ต.ค. 59 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) นำโดย พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. บูรณาการร่วม ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และภูธรเชียงใหม่ ได้จับกุมตัวสองสามีภรรยาคู่นี้ได้ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาจาก จ.เชียงใหม่ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ โดย พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำผู้เสียหายก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนครสวรรค์ออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์เอาผู้อื่นลงเป็นทาส หรือให้มีฐานะคล้ายทาส กระทำรุนแรงในครอบครัว และทำร้ายร่างกายผู้อื่นสาหัส
รายงานโดย ตั่วถั่ง นิวส์ พีอาร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
————
เเจ้งข่าว,ติดต่อทำข่าว ติดต่อประชาสัมพันธ์ได้ที่ 056-213944 , 095-6376337 , 080-1537337 ,084-7737337
———
ข่าวนครสวรรค์แฟนเพจ
www.facebook.com/khaonakhonsawan
ข่าวนครสวรรค์ เว็บไซต์
www.khaonakhonsawan.com/
www.ข่าวนครสวรรค์.com