เสียงสะท้อนดีมาก ม.เจ้าพระยา ดึงเยาวชน 4 ชาติร่วมค่าย AEC [ข่าวนครสวรรค์]

Spread the love

โครงการค่ายเยาวชนอาเซียน “AEC : ASEAN Excellent Camp” เป็นโครงการที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และกลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ‘เคทิส’ (KTIS) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กๆ เรียนรู้และเข้าใจในบทบาทหน้าที่การเป็นพลเมืองที่ดีของประชาคมอาเซียนผ่านกิจกรรมหลากรูปแบบ ทั้งนี้ เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ มาจาก 4 ประเทศ ได้แก่ เยาวชนไทย 41 คน เวียดนาม 40 คน ลาว 11 คน และกัมพูชา 10 คน ซึ่งทั้งหมดผ่านการคัดเลือกด้วยคุณสมบัติหลักๆ ประกอบด้วย ลักษณะความเป็นผู้นำ กล้าแสดงออก และมีทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ดี

ดร.ดารัตน์ ศิริวิริยะกุล วิภาตะกลัศ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา บอกว่า ค่าย AEC ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความรู้ความเข้าใจที่ดีร่วมกันในบทบาทหน้าที่การเป็นพลเมืองที่ดีของประชาคมอาเซียน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ทางกิจกรรมที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับค่ายครั้งนี้ โดยมุ่งหวังว่า เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมค่ายนี้ จะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนมากขึ้น อีกทั้งได้พัฒนาตนเองทั้งในด้านของบุคลิกภาพ การปรับตัวในการอยู่ร่วมกันในสังคม ภาวะผู้นำ การทำงานเป็นทีม การบริหารความขัดแย้ง การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรรมระหว่างชาติ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และยังช่วยดูแลสังคมให้เข้าใจถึงพิษภัยของยาเสพติด รวมไปถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ก่อนเริ่มกิจกรรม เยาวชนทั้งหมดจะแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่มๆ ละประมาณ 20 คน คละเยาวชนชาย-หญิง คละประเทศ โดยแต่ละกลุ่มจะใช้สีเป็นสัญลักษณ์ ได้แก่ สีเขียว แดง เหลือง ม่วง และฟ้า จากนั้นแต่ละกลุ่มก็จะตั้งชื่อกลุ่มของตัวเอง ซึ่งก็น่าแปลกที่แม้ไม่ได้กำหนดกรอบในการตั้งชื่อ แต่เด็กๆ กลับเน้นการตั้งชื่อในความหมายที่รวบรวมความหลากหลายให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน อาทิเช่น กลุ่ม We Are One หรือกลุ่ม Golden Four ซึ่ง Four หมายถึงการรวมกันของ 4 ชาติ

หลังจากนั้น เด็กๆ จะร่วมกิจกรรม ซึ่งมีทั้งการบรรยายในห้อง ในหัวข้อต่างๆ อาทิเช่น “การรณรงค์ป้องกันและการต่อต้านยาเสพติด: กรณีศึกษาโครงการ To be number one” โดย ดร.กฤษณะ ดาราเรือง จากมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และ “เสียงพิเศษจากช้าง” โดย อ.ประสพ ทิพย์ประเสริฐ ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรม โรงแรมทรัพย์ไพรวัลย์ แกรนด์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านช้าง รวมถึงการทำกิจกรรมฐาน ซึ่งมีทั้งหมด 5 ฐาน เน้นการวางแผน ความยืดหยุ่น การสื่อสาร ภาวะผู้นำ-ผู้ตาม ความสมัครสมานสามัคคี และความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ทั้งการบายศรีสู่ขวัญ การแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ และการแสดงของประเทศต่างๆ รวมถึงการทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญของจังหวัดพิษณุโลก

“ดวงใจ ศรีธัญยารัตน์” หรือ เจนนี่ สาวน้อยวัย 17 ปี จากแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว บอกว่า เธอเรียนโรงเรียนจีนชื่อ “จุงเต็ก” ในประเทศลาว ทำให้เธอมีโอกาสได้เดินทางไปทำกิจกรรมในประเทศจีน 2 ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เดินทางมาประเทศไทย

“สิ่งที่หนูได้จากแคมป์นี้ ได้หลายอย่างเลยค่ะ ทั้งความสนุกสนาน ตื่นเต้น ได้เพื่อนใหม่ ความรู้ใหม่ๆ ได้ความสามัคคี ช่วยเหลือคนอื่น เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ในเรื่องของปัญหายาเสพติดนั้น เป็นปัญหาใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่ประเทศลาวก็ด้วย แต่ของลาวมีการรณรงค์ที่อาจจะเรียกได้ว่า ไม่ต่อเนื่องและยั่งยืน รณรงค์เป็นแคมเปญสั้นๆ ดังนั้น การได้รู้จักโครงการทู บี นัมเบอร์วัน ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากมีโอกาสจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในประเทศลาวบ้าง ถือเป็นโครงการที่ดีจริงๆ ค่ะ” เยาวชนจากลาวกล่าวปิดท้ายพร้อมรอยยิ้มสดใส

เสียงสะท้อนจากเยาวชนเหล่านี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จของค่าย AEC : ASEAN Excellent Camp แต่ความสำเร็จดังกล่าวจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดการทุ่มเททำงานอย่างเอาจริงเอาจัง จากผู้จัดงาน ซึ่งนำทีมโดย อ.จิรนันท์ กมลสินธุ์ และคณาจารย์ บุคลากร เจ้าหน้าที่ รวมถึงวิทยากรจากมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ที่ทุกคนต่างมีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ การพัฒนาเยาวชน ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในฐานะ “ประชาคมอาเซียน” อย่างมีคุณภาพ

“เราเชื่อในศักยภาพของประชาคมอาเซียน เรามั่นใจในการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และเราภูมิใจที่เป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้เยาวชนทั้ง 4 ชาติในอาเซียนได้เรียนรู้ ได้แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยมุ่งหมายให้พวกเขาเป็นเด็กเก่งและดี ที่มีจิตสาธารณะอย่างแท้จริง” เป็นอีกหนึ่งเสียงปิดท้ายจาก ดร.ดารัตน์ ศิริวิริยะกุล วิภาตะกลัศ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา