ไขทีละช็อต!…ปมสังหารเจ้าเเม่เงินกู้ปากน้ำโพ [ข่าวนครสวรรค์]

Spread the love

…ไขทีละช็อต แก้ทีละปม คดีสังหารเจ้าเเม่เงินกู้ปากน้ำโพ ตั้งเเต่ พบศพจนถึงรับสารภาพ

17 ตุลาคม 2559 มีหญิงสูงอายุรายหนึ่งหายตัวออกจากบ้านไป
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.ท.เชาวโรจน์ ทองรอด รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ได้รับเเจ้งจากประชาชนพบศพถูกฆาตกรรมยัดถุง ที่บริเวณริมถนนเกาะญวน ในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้หญิงสูงอายุอยู่ในถุงดำ สภาพถูกรัดคอ เเละข้อมือ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
แพทย์ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ กับหน่วยกู้ภัยนครสวรรค์ ประเมินจากสภาพศพ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 วันแล้ว
จากการสืบข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า น่าจะเป็นศพของ นางสภาพร พัทยาวรรณ สืบต่อทราบว่าเป็นผู้มีฐานะดี ปล่อยเงินกู้เก็บดอกเบี้ย เเถมมีห้องเช่าให้เช่าอีกหลายหลัง
ต่อมา นายสุเทพ เทพนาทอง อายุ 66 ปี เดินทางมาชี้ยืนยันว่า เป็นศพของ นางสภาพร พัทยาวรรณ อายุ 67 ปี ภรรยาของตน ที่เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้ขี่รถ จักรยานออกจากบ้าน เพื่อไปเก็บเงินลูกหนี้ตามปกติ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เจ้าหน้าที่ตีกรอบสาเหตุการฆาตกรรม คือ 1)ฆ่าล้างหนี้ 2)ฆ่าชิงทรัพย์ เพราะเครื่องประดับผู้ตายได้หายไปด้วย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบรถจักรยานของ นางสภาพร จอดอยู่ที่บ้านของนักกฎหมายรายหนึ่ง บริเวณวัดนครสวรรค์
ต่อมา ได้ติดต่อเจ้าของบ้านให้มาเปิดบ้านเพื่อขอเข้าตรวจสอบรถจักรยานคันดังกล่าว ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จึงขอนำรถจักรยานไปตรวจสอบหลักฐานต่างๆ *พบว่านักกฎหมายซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ไม่ใช่คนร้าย
ต่อมา เจ้าหน้าที่นำตัวชายหนุ่มรายหนึ่งมาสอบปากคำ เหตุว่า ชายคนนี้ได้ใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย แต่ชายคนดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า ตนเองเก็บโทรศัพท์ได้ในตึกเหลืองตลาดปากน้ำโพ ไม่รู้ว่าเป็นของใคร และจากการเข้าตรวจค้นในห้องพักของชายผู้ต้องสงสัย *ยังไม่พบสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ **ยัง ไม่ใช่คนร้าย
และในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ คือ นายอิทธิพร กรรมิน อายุ 40 ปี มีอาชีพรับจ้างซ่อมโทรศัพท์ เปิดรับซ่อมอยู่ด้านข้างวัดนครสวรรค์ เลขที่ 3/20 ซอยลูกเสือ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์
เบื้องต้น คนร้ายไม่รับสารภาพใดๆทั้งสิ้น ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
สุดท้ายต้องยอมจำนนด้วยหลักฐาน เเละสารภาพว่าตนเองเป็นคนลงมือสังหาร นางสภาพร พัทยาวรรณ
นายอิทธิพร เล่าว่า “ตนเองได้ไปกู้เงินจากผู้ตายมาจำนวน 2 เเสนบาท ได้ใช้โฉนดที่ดินไปค้ำไว้ หากไม่ไถ่ถอนภายใน 2 ปี จะถูกยึด ครั้นเวลานี้ใกล้ถึงเวลาใช้หนี้คืน แต่ตนเองยังไม่มีเงิน”
นายอิทธิพร เล่าต่อว่า “ตนเองกลัวมากว่าจะถูกนางสุภาพรยึดที่ดินแปลงที่ได้ค้ำประกันไว้ จึงได้วางแผนลวงโทรศัพท์ให้นางสุภาพรมารับเงินใช้หนี้ที่ร้านซ่อมโทรศัพท์ “

17 ตุลาคม 59 เวลาประมาณ 13.30 น. นางสุภาพรขี่รถจักรยานออกมาจากบ้านที่ชุมชนหลังวัดกบ มาหานายอิทธิพรที่ร้านเมื่อวันที่ เมื่อนางสุภาพรมาถึงนายอิทธิพร ได้ลงมือฆ่าด้วยการใช้เชือกรองเท้าสองเส้นมัดคอจนเสียชีวิต จากนั้นใช้สายไฟมัดมือ มัดเท้ายัดศพใส่ถุงพลาสติกสีดำที่ใช้ใส่ขยะ มัดปากถุงแล้วรอเวลาให้มืด
เวลา 03.55 น.วันที่ 18 ตุลาคม 59 นายอิทธิพรนำถุงดำที่ใส่ศพ พร้อมขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีเทา ทะเบียน คขน 342 นครสวรรค์ แล้วขับขี่โดยปิดไฟหน้ารถออกจากร้าน เลี้ยวขวาย้อนศรออกไปตามถนนโกสีย์ผ่านโรงน้ำแข็งหลอดนครสวรรค์ หลังโรงพยาบาล และ เลี้ยวซ้ายลงถนนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เลี้ยวขวาเข้าไปที่เกาะญวน หลังจากนั้นได้นำศพในถุงดำไปหมกไว้ในป่าหญ้า ก่อนที่จะขับขี่รถ จยย.วนมาออกทางตึกเหลือง
04.30 น. เข้านอนแล้วทำตัวปกติธรรมดาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เช้าวันที่ 26 ตุลาคม 59 พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน และหน่วย นปพ.ได้ควบคุมตัวนายอิทธิพรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
เจ้าหน้าที่ ส่งมอบตัวนายอิทธิพรพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไปในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นศพโดยใช้ยานพาหนะนำศพไปซ่อนเสียเพื่อให้พ้นจากการกระทำผิด

คดีนี้ถือเป็นคดีที่ฆาตกรลงมืออย่างโหดเหี้ยม เป็นที่สาปแช่งด่าทอของชาวนครสวรรค์ และเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก โดยเราไม่รู้เลยว่าคนใกล้ๆตัวเรา ที่พูดจาดี เเต่งตัวดี หรือแม้กระทั่งหน้าตาดี จะมีพฤติกรรมเช่นไร

ขอชื่นชมผลงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเเละทุกภาคส่วนของจังหวัดนครสวรรค์ที่สามารถคลี่คลายคดีนี้ได้อย่างรวดเร็ว

สุดท้าย ขอเเสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย