10 ข่าวนครสวรรค์ “ที่สุดเเห่งปี2019” [ข่าวนครสวรรค์]
ตามธรรมเนียมของ “ข่าวนครสวรรค์” เราจะพยายามคัดข่าวเด่นๆของนครสวรรค์บ้านเรา สรุปมาให้แฟนๆได้อ่านกัน ได้มาทบทวนความทรงจำกันว่าตลอดปีมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่จังหวัดเราบ้าง ไปพบกับ “10ข่าวนครสวรรค์ ที่สุดเเห่งปี2019” กันเลยครับ
อันดับที่ 10 ผลการเลือกตั้งนครสวรรค์ “นครสวรรค์ย้อนยุค”
ข่าวนี้เกิดเมื่อต้นปี 2019 ผลการเลือกตั้ง ที่ชาวนครสวรรค์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ส.ส.ในครั้งนี้ ล้วนเป็นคนหน้าเก่า คนรุ่นเก๋า อดีตดำรงตำเเหน่งมาแล้วมากมายทุกคน เรียกว่าเป็นหนุ่มใหญ่เกือบยกเเผง มีทั้งอดีตส.ส. อดีตรัฐมนตรี อดีตนายกอบจ. ผู้หลักผู้ใหญ่เห็นรายชื่อเเล้วก็พลันให้ต้องคิดถึงถึงราวของตัวเองในอดีตทั้งของตัวเองเเละของบ้านเมืองนครสวรรค์
เขต1นายภิญโญ นิโรจน์ พรรคพลังประรัฐ ได้คะแนน 24,656 คะเเนน
เขต2นายวีระกร คำประกอบ พรรคพลังประชารัฐได้คะแนน 31,459 คะแนน
เขต3 นายสัญญา นิลสุพรรณ พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนน 32,868คะแนน
เขต4 นายมานพ ศรีผึ้ง พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 33,642คะแนน
เขต 5 นายทายาท เกียรติชูศักดิ์ พรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนน 34,367 คะแนน
เขต6 นายนิโรจน์ สุนทรเลขา พรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนน 25,998 คะแนน
อันดับ9 นครสวรรค์มีทีมฟุตบอลสู้ลีกอาชีพเเล้วเมื่อ สี่เเคว ซิตี้ ซื้อทีม
ข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน2019 หลังเเฟนฟุตบอลนครสวรรค์ต้องผิดหวังกับผลงานของทีม นครสวรรค์เอฟซี ถาวรฟาร์มเอฟซี ปากน้ำโพเอฟซี รวมถึง สี่เเควเอฟซี เนื่องจากไม่สามารถฝ่าฟันขึ้นไปเล่นลีกอาชีพในระดับ T4ได้ ทำให้ในเวลานั้น นครสวรรค์ทีมยักษ์ใหญ่เเห่งวงการลูกหนังจะไม่มีทีมฟุตบอลไปร่วมเล่นลีกอาชีพเลยเเม้เเต่ทีมเดียว จนกระทั่ง กลุ่มทุนเดิมสี่เเควเอฟซี ทำการซื้อทีม สมาคมกีฬาพิษณุโลก ทำให้ในปีหน้านี้ เเฟนบอลชาวนครสวรรค์จะมีทีมฟุตบอลเชียร์เเน่นอนคือทีม “สี่เเควซิตี้”
อันดับ8 ทหารค่ายจิรประวัติ ฉีกทุกกฎเกณฑ์ นำกำลังไปช่วยดูเเลรักษาอาการป่วยของเเม่พลทหาร
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ “กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 4 กรมทหารปืนใหญที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์บ้านเรานี่เอง” เมื่อเดือนพฤศจิกายน2019 เหตุการณ์คือ พลทหารชยา วัฒณะธัญการ เป็นพลทหารใหม่ๆเพิ่งจะเข้ารับราชการเป็นทหารใหม่เมื่อวันที่ 1 พ.ย.62 ที่ผ่านมานี้เอง เเม่ของพลทหารชยาป่วยติดเตียงหรือโรคเชื้อราในสมองพักรักษาอาการอยู่ที่พักที่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จังหวัดกำเเพงเพชร
พลทหารชยา รู้สึกเป็นห่วงคุณเเม่มากๆ เเต่ก็รู้ว่าตนเองเพิ่งเข้ามารายงานตัวเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนี้เอง จะไปขอลากลับบ้านไม่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก เเต่ด้วยความที่ในเวลาฝึกฝนก็จะกังวลตลอดเวลา ไม่เป็นอันกินอันนอน ขาดสมาธิ จึงตัดสินใจพูดกับครูฝึกไปตรงๆว่าตนเองมีเเม่ที่ป่วยอยู่ อยากจะขอลากลับไปดูเเลคุณเเม่
ในเวลานั้นพลทหารชยา ก็พูดไปด้วยอาการกล้ากลัวๆ เเต่พอได้รับคำตอบทำให้รู้สึกดีเป็นอย่างมาก เพราะ นอกจากผู้บังคับบัญชาจะไม่ต่อว่าอะไรเเล้ว ยังสั่งให้ครูฝึกเตรียมรถ เรียกหน่วยแพทย์ เข้าช่วยเหลือแม่น้องพลทหารชยาทันทีอีกด้วย
หลังจากรับรู้เรื่องราวนี้เเล้ว พ.ท.ทรงสิทธิ์ รอดสการ ผบ.ป.4 พัน.4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วย ร.ท.สัตยา แออ่วม ผู้ฝึกทหารใหม่ก้ได้นำกำลังพลลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจพลทหารชยา วัฒณะธัญการ พร้อมกับมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและเครื่องใช้ที่จำเป็นเวชภัณฑ์ให้กับครอบครัวทหารใหม่ นอกจากนี้นายทหารพยาบาลของหน่วยได้ทำการตรวจสุขภาพครอบครัวคุณเเม่รวมถึงคนในครอบครัวด้วย สำหรับพลทหารชยาทันทีที่ได้พบกับครอบครัวและแม่ก็กั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ โผเข้าโอบกอดกันด้วยความตื้นตันใจพร้อมกับขอบคุณ ผบ.ป.4 พัน.4 ที่เข้าใจรู้สึกถึงการได้อยู่ร่วมกันกับครอบครัวที่ได้กลับมาเยี่ยมครอบครัวถือว่าเป็นกำลังใจและมีความตั้งใจในการฝึกและปฏิบัติหน้าที่ในการรับใช้ชาติและบ้านเมืองต่อไป
อันดับ7 นายก อบต. ในพื้นที่อำเภอบรรพตพิสัย ทำการกระทำชำเราเด็กอายุ14 เรื่องถึงปวีณา
ข่าวนี้ เป็นข่าวดังระดับประเทศ เมื่อ คุณปู่กับคุณพ่อของเด็กสาวได้ร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณา ไล่ลำดับเหตุการณ์ตามข้อเท็จจริง ก็คือ
เด็กหญิงหนึ่ง(นามสมมติ) พ่อกับแม่แยกทางกัน ส่วนตัวของเด็กมีพฤติกรรมติดเพื่อนไม่ค่อยกลับบ้าน ไม่เรียนหนังสือ อยู่ๆเด็กหญิงหนึ่ง ก็หายตัวออกจากบ้านที่อำเภอบรรพตพิสัยไป พอหายไปประมาณ 1 เดือน พ่อกับปู่รู้สึกว่าผิดปกติมาก จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี”
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังได้รับเรื่องก็ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหลักฐานที่พ่อกับปู้ของเด็กหญิงหนึ่งมี จากนั้นก็ประสานกลับมายัง พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผู้กำกับ สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ให้ช่วยสืบหาเด็กหญิงหนึ่งรายนี้
พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ก็ไม่นิ่งดูดายสั่งการระดมสรรพกำลัง ตามหาตัวเด็กหญิงหนึ่งทันที จนในที่สุดสามารถพบเด็กหญิงหนึ่ง ในเวลานั้นเด็กหญิงหนุ่งได้อาศัยรวมอยู่กับกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นหลายคนในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนางปวีณาก็ได้ประสาน นางศรีสุดา เถาเมืองใจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ และ นายสมหมาย เฉลิมมุข หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ เข้าช่วยเหลือให้รับเด็กหญิงหนึ่งเข้าอยู่ในความคุ้มครองก่อน
นักสังคมสงเคราะห์ได้ทำการสอบถามเด็กหญิงหนึ่ง ได้ความว่า ก่อนหน้านี้เด็กหญิงหนึ่งไปเที่ยวบ้านเพื่อนและได้รู้จักกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งดำรงตำเเหน่งเป็นนายก อบต. ในพื้นที่อำเภอบรรพตพิสัย เริ่มรู้จักเพราะนายกอบต.คนนี้ได้มานั่งดื่มเหล้ากับพ่อแม่ของเพื่อน หลายวันต่อมาเด็กหญิงหนึ่งได้ไปเดินห้างสรรพสินค้ากับเพื่อนๆ เห็นชุดชั้นในผู้หญิงสวยๆ จนเกิดความอยากได้แต่ไม่มีเงินซื้อ จึงตัดสินใจแอบขโมยชุดชั้นในนั้นเเต่ไปไม่รอดถูกพนักงานห้างฯ จับได้ และถูกดำเนินคดีส่งตัวเข้าสถานพินิจ
ต่อมา นายก อบต. คนดังกล่าวนี้ ได้มาเยี่ยมตนและยื่นข้อเสนอจะช่วยประกันตัวออกมา ** แต่มีข้อเเม้ต้องยอมไปหลับนอนกับเขาด้วย ด้วยความที่ไม่อยากติดคุก อยากออกจากสถานพินิจให้เร็วที่สุดจึงทำการตกลงไป หลังออกมาแล้วนายก อบต.คนนี้ได้กระทำชำเราเด็กหญิงหนึ่ง โดยพอเสร็จกิจจะปลอบใจด้วยการให้เงินตนใช้ 1,000 บาท จากวันนั้นเด้กหญิงหนึ่งก็ถูกกระทำชำเราเรื่อยมา เด็กหญิงหนึ่งให้ข้อมูลว่าอยากเรียนหนังสือมากแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
นายกอบต.คนนี้ ได้เช่าห้องให้ตนอยู่อาศัยกับเพื่อนๆ เวลารวมตัวกับเพื่อนบางครั้งก็ชวนกันเสพยาเสพติด เช่น ยาไอซ์ หรือกิน “โปรโคดิล” คือเอายาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยาแก้ปวด ยาทรามาดอล ผสมกันน้ำอัดลม เมื่อดื่มแล้วจะมีอาการมึนเมาเหมือนกับดื่มแอลกอฮอล์ เพราะความเครียดคิดหาทางออกไม่ได้ว่าจะทำยังไงให้หลุดพ้นจากตรงนี้
ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.บรรพตพิสัย ได้ทำการส่งตัวเด็กหญิงหนึ่งไปตรวจร่างกาย พบร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ และมีสารเสพติด (ไอซ์) อยู่ในร่างกาย ก่อนจะนัดสอบสหวิชาชีพโดยเด็กหญิงหนึ่งให้การชัดเจน หลังสอบสหวิชาชีพเสร็จทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลที่ก่อเหตุ ในข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี
อันดับ6 ปลัดอำเภอแม่เปิน อ้างถูกกลั่นแกล้งจากผู้บังคับบัญชาเพราะบุกจับเเกงค์ยาเสพติดเเล้วไม่รายงาน คู่กรณีเปิดหลักฐานปลัดเองทำผิดคดีอาญา สุดท้ายถูกย้ายไปหนองบัว
นายมนต์เอก กิจธิคุณ เป็นปลัดอำเภอแม่เปิน ออกมาให้ข่าวว่าถูกผู้บังคับบัญชากลั่นเเกล้ง เหตุจากที่ตนเองบุกจับยาเสพติดในพื้นที่สีเเดงได้ของกลางยาบ้า 500 เม็ด และยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่งแล้ว เเต่ในขณะบุกจับนั้นตนเองไม่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ทำให้ถูกสั่งย้ายมาช่วยราชการ โดยประจำอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ ต้องอาศัยที่พักของอาสา ใช้ดำรงชีวิตอยู่ ไม่มีบ้านพักเเต่อย่างใด
ทีมข่าวนครสวรรค์ ลงพื้นที่ อำเภอแม่เปิน พบแหล่งข่าวให้ข้อมูลอีกมุมหนึ่งของเรื่องนี้ ต้องบอกว่าเป็นที่น่าตกใจ เพราะ ข้อมูลที่ได้รับต่างกันราวฟ้ากับเหวลึก ดังนี้
1.ปลัดมนต์เอก บอกว่า ตนเองถูกย้ายเพราะ ไปบุกจับขบวนการค้ายาเสพติด แล้วไม่ได้รายงานผู้บังคับบัญชา แหล่งข่าวแจ้งว่า ปลัดมนต์เอกถูกย้ายเพราะ ถูกเพื่อนร่วมงานในกองการปกครองของอำเภอแม่เปินทุกคน ลงชื่อไม่พอใจพฤติกรรมของปลัดมนต์เอกตอนปฏิบัติงานในพื้นที่
2.ปลัดมนต์เอก บอกว่า ตนเองถูกกลั่นแกล้ง แหล่งข่าวแจ้งว่า ปลัดมนต์เอก ถูกดำเนินทั้งคดีอาญา และ ทั้งด้านวินัย ผู้บังคับบัญชาจึงต้องมีคำสั่งตามขั้นตอน ซึ่งถูกต้องแล้ว
3.ปลัดมนต์เอก บอกว่า ผู้บังคับบัญชานำพลาสติกสีเหลืองมากั้นห้องทำงานตนเอง ทำให้ไม่สามารถเข้าไปนั่งทำงานได้ แหล่งข่าวแจ้งว่า ห้องที่ปรากฏในข่าวว่าถูกกั้นนั้น ไม่ใช่ห้องทำงานของปลัดมนต์เอก และที่กั้นสาเหตุ คือ เป็นห้องการเงินที่ปลัดมนต์เอก แอบปีนเข้าไปหวังจะทำลายหลักฐานบางอย่าง จึงกั้นไว้เพื่อให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่ปลัดมนต์เอกเรียบร้อยแล้ว
4.เอกสารที่ปรากฏในข่าวว่า นายอำเภอแม่เปินไม่อนุญาตตามคำขอของทางปลัดมนต์เอก แหล่งข่าวแจ้งว่า นั่นเป็นเพราะ ปลัดมนต์เอกตั้งใจทำเอกสารมาแบบไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบ ขึ้นหัวกระดาษว่า ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ ต้องเป็น ผู้ว่า / รองผู้ว่า หรือผู้ปฏิบัติราชการแทน เท่านั้น ปลัดอำเภอ ไม่มีสิทธิ์ในการทำเอกสารแบบนี้
ทั้งความผิดทางด้านคดีอาญา และความผิดทางด้านวินัย กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่ ในปัจจุบันนี้ ปลัดมนต์เอกถูกย้ายไปที่อำเภอหนองบัวเเบบเงียบๆเเล้ว
อันดับ5 จอนนี่ “สับเปลี่ยนบิ๊กไบค์” ทำทีขับรถ3เเสนมาขอลองรถล้านกว่า …..สุดท้ายหายเข้ากลีบเมฆ
ข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2019 เกิดเหตุ มีหัวขโมยมาขอดูรถบิ๊กไบค์ ที่ร้าน S2 Special Parts กลางเมืองนครสวรรค์เเละขอลองรถ สุดท้ายไปไม่กลับ
⛔ ส่วนไอ้หนุ่มหัวขโมยรายนี้ เจ้าของร้านค่อนข้างมั่นใจว่า คือ นาย วงศกร กิ่งแก้ว 172/ ม.4 ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ชื่อเล่นหรือที่สาวๆยามค่ำคืนมักเรียกว่า “ไอ้หนุ่มจอนนี่”
⛔ ที่เจ้าของร้านค่อนข้างมั่นใจเพราะ มันไม่ใช่คนอื่นคนไกลของเจ้าของร้าน S2 Special Parts หรอก มันปรากฎตัวมาให้เห็นบ่อยๆ มาถามเรื่องอะไหล่เเต่งรถบ้าง มาตีสนิทสอบถามราคา หรือ วิชาความรู้เรื่องรถบิ๊กไบค์บ้าง มาสอบถามอยู่เรื่อยๆ
⛔ และในเเวดวงการท่องราตรีเนี่ยนะ เค้าเคยเห็นหน้าค่าตา “ไอ้หนุ่มจอนนี่” กันทั้งนั้น เพราะมันจะมีพฤติกรรม ชอบนำรถบิ๊กไบค์ยี่ห้อต่างๆมาขับขี่ในตัวเมืองนครสวรรค์ ขับไปจอดเท่ๆที่ถนนคนเดิน ขับไปโชว์สาวตามร้านเหล้าต่างๆริมหนองสมบุญ ราวกับว่าบ้านรวยมีรถบิ๊กไบค์หลายต่อหลายคัน
⛔ สำหรับพฤติกรรมการก่อเหตุในครั้งนี้ ก็คือ ไอ้หนุ่มจอนนี่รายนี้ก็เข้ามาที่ร้าน S2 Special Parts โดยขับขี่รถ CBR650 มา (ราคาประมาณ303,000 บาท) และมาเดินไปเดินมาดูรถวนไปในร้านอยู่สักพักใหญ่ๆ เเล้วทำท่าทีถูกใจรถอยู่คันหนึ่ง คือ BMW S1100rr (ราคาประมาณ 1,200,000 บาท) และขอลองรถ โดยจอดรถ CBR650 ทิ้งไว้ที่ร้าน สุดท้ายไอ้หนุ่มจอนนี่หายต๋อม ไม่กลับมาอีกเลย ปิดไลน์ ปิดเฟสบุ้คหนีไปเลยครับผม
⛔ เจ้าของร้าน คือ นายศรัณย์ภัทร พิทักษ์อังกูร เห็นว่าคงโดนเข้าเเล้วจึงเข้าเเจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รวบตัว “จอนนี่” ได้
อันดับ4 สารวัตรเเย้ ได้รับพัสดุจากไปรษณีย์ เปิดมาเป็นยาเสพติด ตำรวจบุกรวบตัวเเม่
ข่าวนี้ทำให้เกิดการปฏิวัติการขนส่งพัสดุทางไปรษณีย์ เเละการจับกุมผู้ต้องหากรณีมีพัสดุส่งมาที่บ้านใหม่เลยทีเดียว
เเม่ของ พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือ คนนครสวรรค์รู้จักกันในนาม “สารวัตรแย้” ได้รับจดหมายพัสดุส่งมา เเม่จึงได้ออกไปรับ และก็ทราบว่าเป็นพัสดุใช้ชื่อส่งถึงลูกชายตน ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่เมื่อเซ็นชื่อรับของ ยังไม่ทันจะได้เดินเข้าไปในบ้าน ก็มีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นตำรวจนับ 10 คน โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ เข้ามารุมล้อม พร้อมกับถามว่าพัสดุอะไร รู้หรือเปล่าว่ามียาบ้าอยู่ในนั้น ก็รู้สึกตกใจ จึงได้พยายามที่จะโทรไปหาผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยกันตรวจสอบ แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถติดต่อผู้ใหญ่บ้านได้ เนิ่องจากถูกกลุ่มเจ้าหน้าที่ยึดโทรศัพท์ไป พร้อมกับให้เปิดกล่องพัสดุออกมาให้ดู จึงได้เห็นว่ามียาเสพติดบรรจุอยู่ในกล่อง แต่เเม่ก็ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร ตำรวจได้ตรวจดูพบว่าเป็นยาไอซ์ 50 กรัมและยาอีสีขาว จำนวนกว่า 50 เม็ด จากนั้นตำรวจบุกรวบตัวทันที
คดีนี้ยังไม่จบ กำลังสืบสวนสวบสวนกันอยู่ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร ทางตำรวจคาดว่า สารวัตรเเย้ ไม่น่าจะเกี่ยวกับยาเสพติดที่ส่งมา คาดอาจถูกกลั่นเเกล้ง
อันดับ3 “ลุงเช้า พรหมมา” สามล้อรับจ้างวัย 80 ปี ถูกทำร้ายร่างกายจนตาย
“ลุงเช้า พรหมมา” สามล้อรับจ้างวัย 80 ปี ชาวปากน้ำโพก็เรียกว่าลุงติดปากแบบนี้มานานเเล้ว ลุงเช้า ยึดอาชีพสามล้อรับจ้างมานานเเล้ว คนปากน้ำโพโดยเฉพาะเเถวตรอกชุณหงส์ก็จะคุ้นหน้าคุ้นตาแกเป็นอย่างดี มีอะไรนิดอะไรหน่อยก็จะจ้างเเก เพราะก็เห็นอกเห็นใจกัน อีกอย่างก็คือ เเกอาศัยอยู่กับเมียเเกรวมเเกเเล้วก็มีกัน 2 คน แกเป็นคนหาเงินเลี้ยงเมีย ดูเเลกันไป 2 คนเเบบขัดสน
เช้าตรู่วันที่ 25 เมษายน 2562 เวลาประมาณตี4กว่าๆ เกิดเหตุลุงเช้าโดนทำร้ายร่างกายเนื้อตัวอาบเลือด รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์สักพักนึงก็เสียชีวิต ญาติของลุงเช้าได้นำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดช่อง
ชุดสืบสวนนำทีมโดย พ.ต.ท.หิรัญ ภู่ตระกูล รองผู้กำกับสืบสวนสภ.เมืองนครสวรรค์ได้ทำการเเกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครนครสวรรค์รวมถึงกล้องจากร้านค้าใกล้ที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายใช้ท่อนเหล็กตีหัวลุงเช้า ทางตำรวจสืบจนมั่นใจเเล้วจึงทำการขอหมายจับ หมายค้น จากศาลจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม นายพีระพงษ์ ป้องป้อม
คดีนี้ปัจจุบันยังเงียบอยู่ ไม่รู้ผลของคดีเป็นอย่างไร
อันดับ2 ปากน้ำโพรันนิ่ง ครั้งที่1 ดราม่าทั่วประเทศ จัดโคตรห่วย
งานวิ่งอย่าง “ปากน้ำโพรันนิ่งครั้งที่1” ทุกๆคนที่ไปร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานนี้ “ไม่มีอะไรดีเลย” จัดงานห่วย ไม่มีเหรียญไม่มีถ้วย ไม่มีการรับผิดชอบใดๆ ตามหลักฐานที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของงานว่า หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำรายได้ไปสมทบทุนจัดซื้ออุปกรรืการเเพทย์ ณ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ปรากฎชื่อผู้ที่ทำหนังสือประสานกับโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ก็คือ นายภูวเดช จันทร์ประดิษฐ์ มีทั้งหลักฐานที่เป็นรูปถ่ายที่ทางโรงพยาบาลประชาสัมพันธ์ รวมถึงเอกสารขอความอนุเคราะห์
ทางด้านโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ออกมาเเถลงข่าวโดยผู้อำนวยการ ว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับผู้จัดเเต่อย่างใด
สรุป นายภูวเดช จันทร์ประดิษฐ์ ได้ออกมาชี้เเจงค่าใช้จ่ายว่า จากรายได้ทั้งหมด 6 เเสนกว่าบาทเหลือทำบุญให้โรงพยาบาล 17000 กว่าบาทเท่านั้น
ตอนนี้คดีนี้ก็ยังเงียบๆอยู่ ไม่เเน่ใจว่า ผู้เสียหายได้ประสงค์จะดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร
มาถึง อันดับที่ 1 ประจำปี 2019 คือข่าว ตำรวจศูนย์ฝึกฯภาค6 ควักปืนยิงพ่อค้าขายลูกชิ้นหน้าธนาคารกรุงไทยตรงข้ามบิ๊กซี2นครสวรรค์
ข่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อ เดือนธันวาคม 2019 นี่เอง นายป๊อ คือ นายวิศิษฏ์ วงศ์สวัสดิ์ภักดี อายุ 41 ปี มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายลูกชิ้น อยู่ในตัวเมืองปากน้ำโพนครสวรรค์ เป็นคนนิสัยดี เป็นที่รักของคนนครสวรรค์
- นายป๊ออายุ 41 ปี พาคุณเเม่อายุ 73 ปี ไปกดเงินที่ตู้ATM ธนาคารกรุงไทย สาขามาตุลี ตรงข้ามบิ๊กซี2 ตัวเมืองนครสวรรค์
- คุณเเม่ของนายป๊อ มีอาชีพรับซื้อรางวัลสลากกินเเบ่งรัฐบาล ที่มากดเงินก็เพราะจะเตรียมเงินไปให้ลูกค้าที่ต้องนำสลากที่ถูกรางวัลมาขึ้นเงิน
- ในขณะที่กดเงินอยู่นั้น นายป๊อก็นั่งรอที่รถ ให้เเม่ไปกดเงินที่หน้าตู้atm คนเดียว
- สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมป้ายทะเบียน ใส่หมวกเเก้ป เข้ามาพูดประมาณว่า “รู้นะว่าทำอาชีพปล่อยเงินกู้น่ะ จะเเจ้งตำรวจมาจับ”
- นายป๊อเห็นท่าทางไม่ดีถึงเดินมาที่ตู้atm และได้พูดคุยกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายคนนี้ก็พูดอีกว่า “”รู้นะว่าทำอาชีพปล่อยเงินกู้น่ะ จะเเจ้งตำรวจมาจับ”
- นายป๊อก็บอกว่า เเม่ผมขายหวยรัฐบาลไม่ได้ปล่อยเงินกู้ จะเเจ้งตำรวจก็เเจ้งมาได้เลย
- สักพักผู้ชายคนนี้ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป ได้ประมาณ 5 นาที เเล้วขี่กลับมาใหม่
- ชายคนนี้กลับมาที่ตู้ atm เเละพูดจาเเบบเดิมว่า “รู้นะว่าทำอาชีพปล่อยเงินกู้น่ะ จะเเจ้งตำรวจมาจับ”
- ผู้ชายคนนี้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายป๊อจึงขอดูบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน เเต่ผู้ชายคนนั้นอ้างว่า “ไม่มี”
- จากนั้นผู้ชายคนนี้ มาดึงตัวเเม่ของนายป๊อไปพร้อมกับพูดว่า “เราต้องมาคุยกันหน่อย จะเเจ้งตำรวจมาจับ” ทำแบบนี้ประมาณ 2 ครั้ง
- นายป๊อเห็นท่าไม่ดีเลยชกเข้าไปที่ชายคนนี้ 1 หมัด ก่อนจะสู้กันไปมา เเละชายคนนี้ก็ชักปืนเข้ามายิงใส่ท้องน้อยด้านซ้ายของนายป๊อ 1 นัด
- เดชะบุญว่ายิงไม่เข้า (เข้าไม่ลึก) นายป๊อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีอาวุธ จึงยกมือเเสดงท่าทียอม ในที่สุดก็เเยกย้ายกัน
- นายป๊อ ได้เข้าเเจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ทราบว่า ผู้ชายคู่กรณี เป็นตำรวจจริงยศ พันตำรวจโท มีตำเเหน่งเป็นถึงรองผู้กำกับศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค6
- นักข่าวได้ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.เบญจรงค์ รัตนบัวพา ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค6 แต่ทางผู้การศูนย์ฝีกยังไม่สะดวกจะให้ข้อมูล
- นักข่าวได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.สุกฤษฎิ์ บุญทรง ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครสวรรค์ ท่านได้เเจ้งว่าขณะนี้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและ ได้สั่งการให้ดูแลในเรื่องคดีให้รอบครอบเพราะว่าคนกระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชนอย่างเต็มที่
ความคืบหน้าคดีนี้ คือ หลังจากเกิดเหตุ นายป๊อได้ตรวจร่างกายพบ กระสุนฝังในร่างกายตรงบริเวณเเก้มก้นด้านซ้าย ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ด้านนายตำรวจคู่กรณีก็กำลังรวบรวมหลักฐานสู้คดีกันอยู่
พบกับข่าวสารต่างๆของ ข่าวนครสวรรค์.com เเละ ข่าวนครสวรรค์เเฟนเพจได้ ปี 2020 นะครับ