เมาแล้วปั่น(จักรยาน) ไม่มีความผิด จริงหรือ?”[กฎหมายที่ต้องรู้]….ครอบครัวคุณธรรม

Spread the love

เวบเมา

เป็นที่ทราบกันดีว่า กฎหมายจารจรห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น หรือที่มักเรียกกันว่า  “เมาแล้วขับ” เพราะการเมาแล้วขับ นอกจากจะสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามท้องถนนแล้ว และอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ผู้กระทำผิดเองและผู้ร่วมใช้ทางได้อีกด้วย หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่าหกเดือน ตามพระราชบัญญัติจารจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 ,160 ตรี

เมื่อปีที่แล้ว มีกรณีชายที่เมาสุราแล้วปั่นจักรยานเพื่อกลับบ้าน ระหว่างทางพบตำรวจตั้งด่านเป่าแอลกอฮอล์ เมื่อป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่ามีปริมาณที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าเมาสุราจริง ตำรวจจึงส่งตัวต่อพนักงานสอบสวนควบคุมตัวและตั้งข้อหา “ขับรถขณะเมาสุรา” และส่งตัวให้แก่พนักงานอัยการ ซึ่งพนักงานอัยการเห็นชอบจึงส่งฟ้องต่อศาล แต่เมื่อศาลพิจารณาพิเคราะห์คำฟ้องแล้ว เห็นว่า “ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มิได้บัญญัติให้นำมาตรา 43 (2) มาใช้แก่ผู้ขับขี่รถจักรยาน การที่จำเลยเมาสุราแล้วขับขี่รถจักรยานย่อมไม่เป็นความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุรา จึงพิพากษายกฟ้อง” แม้ขณะนี้ จะยังไม่เป็นที่ยุติเพราะพนักงานอัยการดำเนินการ  ทางคดีอย่างต่อเนื่อง จึงอยู่ระหว่างขออนุญาตยื่นอุทธรณ์ครับ  ผลของคดีนี้จะเป็นอย่างไรก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป

แต่ก็อย่างไรก็ตาม คนเมาก็ไม่ควรจะขับครับ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน และถ้าความเมาของคุณเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหาย ความวุ่นวาย หรือเกิดอุบัติเหตุกฎหมายก็มีกฎหมายบทอื่น รอทำโทษผู้ที่เมาแล้วไม่รับผิดชอบต่อสังคมอยู่ครับ  อย่าประมาณกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ครับ “เหล้านะครับไม่ใช่น้ำเต้าหู้ ที่จะกินแล้วไม่เมา”  ระวังกันด้วย

ใครสงสัย หรือ กำลังถูกดำเนินคดี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่  “รายการคลินิกกฎหมาย” โดย ข่าวนครสวรรค์   056-213944 หรือ 095-6376337  

ครอบครัวทนายความ สำนักงานคุณธรรมทนายความ 
ทนายปภาวดี วรวิทย์รัตนกุล
ทนายคุณากร วรวิทย์รัตนกุล

Facebook Comments

Share via
Copy link
Powered by Social Snap